ฟูจิฟิล์ม บิสซิเนส อินโนเวชั่น ประเทศไทย เดินหน้าประกาศทิศทางกลยุทธ์ ไตรมาส 3 ของปี 2024 “Make a Leap to the New Stage” ที่มุ่งเน้นการพัฒนาโซลูชันดิจิทัลเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจไทยในยุคที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเชื่อมโยง 4 องค์ประกอบสำคัญ ได้แก่ Business Innovation, Office & Document Solutions, Graphic Communication และ Customer Happy Experience พร้อมตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าและรักษาความเป็นผู้นำในตลาดเครื่องพิมพ์และโซลูชันดิจิทัล โดยมีเป้าหมายการเติบโตของกลุ่มโซลูชันทางธุรกิจและบริการที่ 29% ของรายได้ในปีงบประมาณ 2024 และตั้งเป้าหมายเติบโตทางรายได้ที่ 31% ภายในปีงบประมาณ 2026 ซึ่งมีผลิตภัณฑ์เรือธงอย่าง FUJIFILM IWpro เข้ามาตอบโจทย์ธุรกิจ
มร.มาซาอากิ ยานากิย่า ประธาน บริษัท ฟูจิฟิล์ม บิสซิเนส อินโนเวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านโซลูชันสำนักงานและเครื่องพิมพ์ เปิดเผยถึงทิศทางกลยุทธ์ปี 2024 ภายใต้กลยุทธ์ “Make a Leap to the New Stage” ซึ่งเชื่อมโยงองค์ประกอบสำคัญ 4 ด้าน เพื่อสนับสนุนธุรกิจไทยในยุคดิจิทัล ประกอบด้วย
- Business Innovation พัฒนาโซลูชันและบริการที่ตอบโจทย์ความท้าทายทางธุรกิจ พร้อมส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านธุรกิจด้วยนวัตกรรมดิจิทัล สู่รูปแบบการทำงานใหม่ในยุคดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย อาทิ AI, IoT และ Cloud Services เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการทำงานของลูกค้า
- Office & Document Solutions มุ่งเป็นผู้นำด้านโซลูชันดิจิทัล โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ครอบคลุมความต้องการของทุกกลุ่มธุรกิจตั้งแต่เอสเอ็มอี (SME) จนถึงเอ็นเตอร์ไพร์ซ (Enterprise) พร้อมขยายฐานลูกค้าและยกระดับการให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศ
- Graphic Communication รักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดงานพิมพ์ โดยนำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัย เพื่อสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจการพิมพ์เชิงพาณิชย์สู่ความยั่งยืน
- Customer Happy Experience มุ่งมั่นสร้างประสบการณ์ที่ดีเยี่ยม เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจ และชุมชน โดยให้การสนับสนุนและการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ พร้อมสร้างเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายที่เข้มแข็งทั่วประเทศ
บริษัทฯ จะเดินหน้าสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจที่ครบวงจร พร้อมขยายฐานลูกค้าใหม่และรักษาฐานลูกค้าเดิมอย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นำ (Key Player) ในตลาดโซลูชันดิจิทัลของประเทศไทยนอกจากนี้ ยังได้นำเป้าประสงค์ใหม่ของกลุ่มธุรกิจของฟูจิฟิล์มฯ หรือ FUJIFILM Group’s Purpose ภายใต้แนวคิด “แต่งแต้มรอยยิ้มให้โลกของเรา – Giving Our World More Smiles” โดยมุ่งสร้างคุณค่าที่มากขึ้นผ่านเทคโนโลยี ล้ำสมัย ซึ่งช่วยผลักดันการเติบโตของภาคธุรกิจไทยในยุคดิจิทัล พร้อมส่งเสริมแบรนด์ “ฟูจิฟิล์ม บิสซิเนส อินโนเวชั่น” ให้เป็นที่รู้จักและเชื่อมโยงกับลูกค้า พันธมิตร และชุมชนอย่างยั่งยืน
“เรามุ่งมั่นส่งมอบโซลูชันดิจิทัลและบริการที่ตอบโจทย์ทุกกลุ่มธุรกิจในประเทศไทย พร้อมสร้างมาตรฐานใหม่ด้านนวัตกรรมและการบริการ เพื่อสนับสนุนธุรกิจไทยให้เติบโตในโลกดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว” มร.มาซาอากิ ยานากิย่า กล่าว
ด้านมร.ฮายาโตะ ซึโบอิ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ฟูจิฟิล์ม บิสซิเนส อินโนเวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ฟูจิฟิล์ม บิสสิเนส อินโนเวชั่น มีรายได้จาก 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ 1.ธุรกิจโซลูชันและบริการงานเอกสารแบบครบวงจร (Business Solution) เพื่อแก้ปัญหาและตอบโจทย์ตามลักษณะงานของธุรกิจ 2.ธุรกิจเครื่องพิมพ์และเครื่องมัลติฟังก์ชันสำหรับสำนักงาน (Office& Document Solutions) และ 3.กราฟิก คอมมูนิเคชั่น (Graphic Communication) กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์ดิจิทัลระดับโปรดักชันและโซลูชันสำหรับธุรกิจการพิมพ์ โดยปีที่ผ่านมา มีรายได้คิดเป็น 39% หรือคิดเป็น 2.72 แสนล้านบาท ของรายได้รวมฟูจิฟิล์มโฮลดิ้งส์ คอร์ปอเรชั่น ซึ่งมีรายได้รวมมากกว่า 6.96 แสนล้านบาท นอกนั้นมาจากธุรกิจเฮลท์แคร์ 33% ธุรกิจด้านภาพ 15.9% และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับวัสดุ 12.1%
สำหรับเป้าหมายในปีนี้ ฟูจิฟิล์ม บิสสิเนส อินโนเวชั่น คาดการณ์การเติบโตของรายได้จากกลุ่มโซลูชันทางธุรกิจและบริการด้านไอทีอยู่ที่ 29% ในปีงบประมาณ 2024 ในขณะที่พอร์ตโฟลิโอ(Portfolio) ธุรกิจของ ฟูจิฟิล์ม บิสสิเนส อินโนเวชั่น มีการเปลี่ยนแปลง เห็นได้จากตัวเลขปีงบประมาณ 2019 ที่รายได้จากโซลูชันและบริการคิดเป็น 28% ของรายได้รวม และผลิตภัณฑ์เรือธงที่จะทำให้รายได้จากโซลูชันเพิ่มขึ้น คือ FUJIFILM IWpro
ภายในปี 2026 บริษัทฯ คาดการณ์การเติบโตที่ 31% ของรายได้จากผลิตภัณฑ์ดิจิทัลโซลูชันและบริการด้านไอที
ทั้งนี้กลยุทธ์ของฟูจิฟิล์ม บิสซิเนส อินโนเวชั่น สะท้อนให้เห็นถึงแนวทางเชิงรุกในการดำเนินธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย การที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับโซลูชันสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมและการสร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์จะช่วยวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต พร้อมตอกย้ำการขับเคลื่อนกลยุทธ์ของฟูจิฟิล์ม บิสซิเนส อินโนเวชั่น ประเทศไทย ทั้งการขยายธุรกิจ โซลูชันผ่านการขายตรง โดยเน้นกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย อาทิ อุตสาหกรรมการผลิต ประกันภัย โลจิสติกส์ และอสังหาริมทรัพย์ อีกทั้งยังเดินหน้าสร้างมาตรฐานทางด้านบริการหลังการขายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยสนับสนุนและยกระดับการบริการกับพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจอย่างครบวงจร เพื่อรองรับการขยายฐานลูกค้าใหม่และรักษาฐานลูกค้าเดิมของบริษัท ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินงาน รวมถึงพันธกิจของบริษัทในการสร้างนวัตกรรมและความเป็นผู้นำตลาดในไทย
สำหรับภาพรวมตลาดมีแนวโน้มการเปลี่ยนไปสู่ดิจิทัลจะเพิ่มสูงขึ้น แต่ตลาดเครื่องพิมพ์ในประเทศไทยคาดว่าจะยังคงมีเสถียรภาพในแง่ของจำนวนเครื่องที่จำหน่ายในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า อย่างไรก็ตาม ปริมาณงานพิมพ์คาดว่าจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญหลังวิกฤตโควิด-19 เนื่องจากรูปแบบการทำงานที่เปลี่ยนไป ด้านการใช้จ่ายด้านไอทีในประเทศไทยมีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่ง คาดว่าจะแตะ 1 ล้านล้านบาทเป็นครั้งแรกในปี 2023 ซึ่งเติบโตราว 5.8% โดยมีปัจจัยการเติบโตอย่างแข็งแกร่งจากการใช้จ่ายด้านซอฟต์แวร์โซลูชันเพื่อใช้ในองค์กรธุรกิจเพิ่มขึ้น 15.9% หรือคิดเป็นมูลค่า 2.42 ล้านล้านบาทและปัญญาประดิษฐ์ (AI) เติบโตถึง 43.1% และคาดว่าจะมีการใช้งานเพิ่มขึ้น 19.6% และคาดการณ์ว่าในปี 2029 มูลค่าตลาดจะสูงถึง 1.628 ล้านล้านบาท จากแนวโน้มการลงทุนด้านไอทีข้างต้น โดยเฉพาะในซอฟต์แวร์และเทคโนโลยีคลาวด์ ได้สะท้อนถึงความต้องการโซลูชันดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นของไอทีในไทย
อีกทั้งผลสำรวจยังพบว่าผู้ใช้งานกว่า 61% มีความเต็มใจที่จะเพิ่มการใช้จ่ายทางด้านไอที เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทำงานที่ดีมากขึ้น
ศุภชัย แสงรัตนเดช ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายบริหารการขายผลิตภัณฑ์โซลูชั่นและบริการ บริษัท ฟูจิฟิล์ม บิสซิเนส อินโนเวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ฟูจิฟิล์ม บิสซิเนส อินโนเวชั่น มีความเชี่ยวชาญและเป็นผู้นำทางด้านโซลูชันสำนักงานและเครื่องพิมพ์จากประสบการณ์กว่า 60 ปี โดยเฉพาะเครื่องพิมพ์ขนาด A3 และ A4 ที่ครองส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 ในปัจจุบัน โดยทางฟูจิฟิล์มฯ ตั้งเป้าหมายในการเป็นผู้เล่นหลักในกลุ่มโซลูชันและบริการทางธุรกิจดิจิทัลในประเทศไทย โดยมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์และบริการโซลูชันที่รองรับการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานในยุคปัจจุบันและอนาคต พร้อมยังช่วยให้ลูกค้าสามารถเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลอย่างไร้รอยต่อ