
6 หน่วยงานรัฐ จับมือ กลุ่มอมตะ ร่วมเปิดศูนย์ “Government All-Service Center” ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี มุ่งยกระดับการให้บริการครบวงจรให้นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ลดขั้นตอน อุปสรรคในการขอใบอนุญาตต่างๆ เพิ่มความเชื่อมั่นด้านการลงทุนในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) พร้อมดึงนักลงทุนสู่ฐานผลิตสำคัญของประเทศ

ชลบุรี -3 กุมภาพันธ์ 2568 : กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานส่งเสริมการลงทุน สำนักงานเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก(EEC) การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ. ) และกลุ่มอมตะ ร่วมพิธีเปิดศูนย์บริการภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จให้บริการผู้ประกอบการแบบครบวงจร (Government All-Service Center ) อย่างเป็นทางการ นับเป็นนิคมอุตสาหกรรมแห่งแรกที่จัดตั้งศูนย์ฯ นี้ ณ นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จ.ชลบุรี
โดยมีเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี จุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก สุเมธ ตั้งประเสริฐ รักษาการผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) และ วิกรม กรมดิษฐ์ ประธานกรรมการ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) ร่วมในพิธี

เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีนักลงทุนต่างชาติที่ให้ความสนใจ เนื่องจากมี Location ที่ดี เชื่อมจากเหนือลงใต้ จากตะวันตกไปตะวันออก มีภูมิศาสตร์ที่เป็นยุทธศาสตร์ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันอุตสาหกรรมเปลี่ยนไปมาก การแข่งขันทั่วโลกเปลี่ยนไปมาก จากเดิมคิดผลิตสินค้าราคาถูก จะต้องคิดค้นผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเป็นเกณฑ์การค้า ทำให้ขีดความสามารถทางการแข่งขันไทยจึงต้องเปลี่ยนหลายเรื่อง เพราะจะคิดแต่การลงทุนอย่างเดียวไม่ได้
“เวลานี้ประเทศไทย ภาคอุตสาหกรรมน่าจะฟื้นตัวกลับมาอีกครั้ง และช่วยดัน GDP ให้เติบโตเพิ่มขึ้น1% โดยไม่ต้องใช้งบประมาณเพิ่ม แต่ต้องเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ คิดเพิ่ม Value Chain โดยไม่คิดเฉพาะการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment :FDI )อย่างเดียว” เอกนัฎ กล่าว
ธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี
ขณะนี้การประกอบธุรกิจอุตสาหกรรม จะต้องขออนุญาตจากหลายหน่วยงาน ซึ่งเป็นขั้นตอนที่เสียเวลา การดำเนินงานของศูนย์บริการภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จแบบครบวงจร (Government All-Service Center ) เป็นความร่วมมือของ 6 องค์กร ประกอบด้วย กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก(EEC) สำนักงานส่งเสริมการลงทุน การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.) และกลุ่มอมตะ เพื่อยกระดับการให้บริการ อำนวยความสะดวก ต่อนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ที่เข้ามาติดต่อหน่วยราชการ สามารถใช้บริการผ่าน ศูนย์บริการภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จฯ ทั้งในด้านการขอใบอนุญาต การยื่นคำขอรับสิทธิประโยชน์ การขออนุญาตนำเข้า และส่งออก เป็นต้น ที่จะครอบคลุมการให้บริการในพื้นที่ EEC นับเป็นศูนย์ฯ แห่งแรกที่ จัดตั้ง ใน จ.ชลบุรี โดยจะเห็นว่า พื้นที่ดังกล่าวมีสถานประกอบการด้านอุตสาหกรรมจำนวนมาก ดังนั้นศูนย์ฯ จะเป็นเครื่องมือ และกลไกสำคัญในการผลักดันให้เกิดการลงทุน เพื่อให้มีความพร้อมในทุกๆด้าน นับเป็นการสนับสนุนภารกิจของกระทรวงอุตสาหกรรมภายใต้นโยบาย “การปฏิรูปอุตสาหกรรมสู่เศรษฐกิจใหม่” ที่มีเป้าหมายให้เศรษฐกิจไทย มีความสะอาด สะดวก และโปร่งใสมากยิ่งขึ้น จึงเป็นก้าวสำคัญในการให้บริการสำหรับผู้ประกอบการและประชาชนที่เข้ามาติดต่อประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ลงทุน จ.ชลบุรี
“ความร่วมมือภาครัฐ และเอกชนในครั้งนี้ เป็นการยกระดับบริการให้กับผู้ประกอบการที่สามารถลดระยะเวลากับหน่วยราชการในขั้นตอนต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และรวดเร็ว ทำให้เกิดความเชื่อมั่นกับนักลงทุนที่จะเข้ามาใช้พื้นที่ ใน EEC เพื่อการลงทุน ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาคการผลิต ในการวางระบบการบริหารจัดการด้านการติดต่อหน่วยงานราชการให้มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น ซึ่งในอดีตอาจต้องใช้ระยะเวลายาวนาน ทำให้สูญเสียโอกาสในการลงทุนของผู้ประกอบการ” เอกนัฏ กล่าวด้านวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานกรรมการ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โดยทั่วไป หากมีนักลงทุนต่างชาติมาลงทุนในไทย จะมีศูนย์บริการ One Stop Service ในนิคมอุตสาหกรรมอยู่แล้ว ไทยมี EEC ครอบคลุมพื้นที่ 13,500 ตร.กม. ส่วนสิงคโปร์พื้นที่กว่า 700 ตร.กม. จะเห็นได้ว่าไทยมีพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 15 เท่า แต่สิงคโปร์ มี GDP 80% ของไทย คือมี GDP มากกว่าไทย 10 เท่า ปัจจุบันไทยมี GDP 1.9% ซึ่งถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบประเทศอื่นๆ ที่ 4-6% เนื่องจากขีดความสามารถทางการแข่งขัน มีโรงงานเกาหลีใต้ในไทยกว่า 400 โรง แต่มีเกาหลีใต้มีโรงงานในเวียดนามกว่า 10,000โรง ดังนั้นไทยจะต้องเน้นทรัพยากรมนุษย์และเตรียมความพร้อมและลดขั้นตอนการลงทุน ซึ่งมีหลายขั้นตอนและใช้เวลามาก
การจัดตั้งศูนย์บริการภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จ “ เป็นกลไกที่สำคัญ ที่จะเอื้อต่อการลงทุน เพราะพื้นที่การลงทุนในภาคตะวันออก มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจประเทศ ทั้งการนำเข้า และส่งออกสินค้า นับเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของภูมิภาค ดังนั้นการอำนวยความสะดวก ในด้านการขอใบอนุญาตต่าง ๆจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนแนวทางการให้บริการ ให้สอดรับกับภาวะการแข่งขัน และยังคงรักษาขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศได้ โดยศูนย์ฯ จททำหน้าที่เป็น Front รับเรื่อง ก่อนที่จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวดำเนินงานตามขั้นตอนต่อไป
“Government All-Service Center” ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ แต่ยังเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการลงทุนและการพัฒนาเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน เป็นการผนึกกำลังร่วมกัน ระหว่างภาครัฐและเอกชนเพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นด้านการอนุมัติ และอนุญาต จากหน่วยราชการที่มีประสิทธิภาพ สู่การพัฒนาประเทศในยุคที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว และทันสมัยอย่างแท้จริง” วิกรม กล่าว
พรรษา ใจชน ผู้จัดการฝ่ายประสานงานราชการและนิติกรรม บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้บริหารศูนย์บริการราชการ Government All-Service Center เปิดเผยถึงแนวทางการบริหารจัดการศูนย์ฯ ว่า อมตะมุ่งเน้นการให้บริการและรองรับกิจกรรมต่างๆ ของผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไป เพื่อสอดคล้องกับปรัชญา “All Win” ซึ่งเป็นแนวทางการดำเนินธุรกิจของกลุ่มอมตะ
“ปัจจุบันศูนย์บริการราชการ พร้อมให้บริการผ่าน 6 หน่วยงานหลัก และในอนาคต กลุ่มอมตะมีแผนขยายการให้บริการเพิ่มเติม โดยเชิญหน่วยงานภาครัฐ สถาบันการศึกษา และองค์กรที่มีบทบาทสำคัญต่อสังคมเข้ามาให้บริการภายในพื้นที่ของนิคมอุตสาหกรรมอมตะ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการอำนวยความสะดวกแก่ภาคธุรกิจและประชาชนได้อย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น” พรรษา กล่าว
นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี ถือเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยมีผู้ประกอบการมากกว่า 800 ราย เข้าดำเนินธุรกิจอยู่ในพื้นที่ นับเป็นจุดเริ่มต้นของการให้บริการที่มุ่งเน้นการอำนวยความสะดวกให้แก่ภาคอุตสาหกรรม ตลอดจนรองรับนักลงทุนใหม่ที่เล็งเห็นศักยภาพของอมตะ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้พื้นที่แห่งนี้เติบโตเป็นศูนย์กลางธุรกิจและอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่งได้ในอนาคต