โครงการ ดีพร้อม x เดลต้า เองเจิล ฟันด์ คอนเน็ค ถือกำเนิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) ร่วมกับ บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของการสนับสนุนผู้ประกอบการรุ่นใหม่ให้เติบโตในตลาด ด้วยการให้ความช่วยเหลือทั้งด้านองค์ความรู้ การตลาด และเงินทุน ตลอดระยะเวลากว่า 9 ปีที่ผ่านมา โครงการนี้ได้พัฒนาและต่อยอดแนวทางในการส่งเสริมสตาร์ทอัปรุ่นใหม่มาอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด โครงการดีพร้อม x เดลต้า เองเจิล ฟันด์ คอนเน็ค ปีที่ 10 ได้ร่วมมือกับบริษัท มีเดียแท็งค์ จำกัด และสมาคมการค้าอินฟลูเอนเซอร์ไทย ขยายผลต่อยอดกลยุทธ์การตลาดผ่านการสร้างเนื้อหา หรือ Content Marketing ปั้นเทรนด์การเสพคอนเทนต์ด้านนวัตกรรม เพื่อเพิ่มโอกาสด้านการตลาด ขยายฐานลูกค้า และผลักดันผู้ประกอบการสตาร์ทอัปให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนให้เปล่าจากบริษัทเดลต้า มูลค่ารวม 5 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าทางการตลาดได้กว่า 50 ล้านบาท
ดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม กล่าวว่า การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเศรษฐกิจใหม่ เพื่อยกระดับผลิตภาพการผลิตและเพิ่มขีดความสามารถให้ผู้ประกอบการไทยสามารถแข่งขันได้ เป็นหนึ่งในพันธกิจสำคัญที่กระทรวงอุตสาหกรรมเร่งดำเนินการ ภายใต้การนำของ เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ประกอบกับนโยบายของ ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มุ่งเน้นการปรับอุตสาหกรรมเข้าสู่วิถีใหม่ โดยให้ความสำคัญในการยกระดับทุกองค์ประกอบของภาคอุตสาหกรรมควบคู่กับการสร้างความเข้มแข็งและกระจายรายได้สู่ชุมชน ด้วย ‘หัว’ และ ‘ใจ’ โดยเฉพาะเน้นการปรับเปลี่ยนธุรกิจและอุตสาหกรรมไปสู่อุตสาหกรรมศักยภาพ หรือ S-curve พร้อมปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจที่เหมาะสมกับรูปแบบธุรกิจในอนาคต ทั้งยังสอดคล้องกับการสร้างกลไกสนับสนุนการพัฒนาขีดความสามารถ ในการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการสตาร์ทอัป ตามนโยบายของ ณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงแหล่งทุนเพื่อขอรับการสนับสนุนเงินทุนไปต่อยอดแนวคิดให้เกิดขึ้นเป็นธุรกิจใหม่ หรือขับเคลื่อนธุรกิจเชิงนวัตกรรมให้มีโอกาสเติบโตในเชิงพาณิชย์
ดีพร้อมจึงเดินหน้าพัฒนาสตาร์ทอัปไทย ผ่านโครงการเชื่อมโยงแหล่งเงินทุนและตลาดสำหรับวิสาหกิจชุมชนเริ่มต้น หรือ DIPROM x DELTA Angel Fund Connect ปีที่ 10 พร้อมเปิดกิจกรรมบ่มเพาะทักษะทางธุรกิจ และการตลาดอย่างเข้มข้น (Marketing Camp) 5 วันเต็ม รวมทั้งเชื่อมโยงเครือข่ายกับผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์ เพื่อปั้นเทรนด์การเสพคอนเทนต์ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย โดยได้รับความร่วมมือจากสมาคมการค้าอินฟลูเอนเซอร์ไทย มาร่วมค้นหาและคัดเลือกผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์ และมีบทบาทในการสร้างการรับรู้และกระจายข้อมูลให้กับคนทั่วโลก
ดุสิต กล่าวว่า ดีพร้อมยังเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการสตาร์ทอัปได้ทำงานร่วมกับพันธมิตรภาคอุตสาหกรรม เพื่อร่วมการทดลองใช้นวัตกรรม หรือโซลูชันในตลาดจริง (Proof of Concept: PoC) ถือเป็นมิติใหม่ของการพัฒนานวัตกรรมให้ตอบโจทย์ความต้องการและง่ายต่อการขยายผลในเชิงธุรกิจ และเป็นก้าวสำคัญที่ดีพร้อมมุ่งส่งเสริมในปีนี้ ก่อนเขเาสู่การนำเสนอโมเดลธุรกิจต่อแหล่งทุนในกิจกรรม Pitching Day นอกจากนี้ยังร่วมมือกับ บริษัท มีเดียแท็งค์ (Shark Tank Thailand) รายการเรียลิตี้โชว์เชิงธุรกิจที่เปิดโอกาสให้สตาร์ทอัปเข้าร่วมรายการ เพื่อสร้างโอกาสในการเชื่อมโยงไปสู่นักลงทุนรายอื่นๆ เพิ่มขึ้น
“ปีนี้มีนวัตกรรมที่น่าสนใจมากมาย เช่น อากาศยานไร้คนขับ VILVERIN VL340, ระบบจัดคิวรถขนถ่านสินค้า, Smart Hydrofitness Solution ลู่วิ่งสายพานใต้น้ำอัตโนมัติสำหรับฟื้นฟูร่างกาย ,แอปพลิเคชัน Smile Migraine แพลตฟอร์มบันทึก ติดตาม และรักษาโรคไมเกรน โดยนวัตกรรมเหล่านี้ถือเป็นจุดเด่นและสามารถนำไปต่อยอดได้ในอนาคต เราพร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการทั้งในด้านองค์ความรู้ และเงินทุน เพื่อพัฒนาแนวคิดสร้างสรรค์สู่ธุรกิจที่จับต้องได้ และเมื่อธุรกิจเกิดขึ้นแล้ว จำเป็นต้องผลักดันให้เติบโตและแข่งขันได้ทั้งตลาดภายในประเทศ และตลาดโลก” ดุสิต กล่าว
วิคเตอร์ เจิ้ง ประธานกรรมการบริหารบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทเดลต้าฯ ร่วมกับดีพร้อมในการดำเนินธุรกิจเชิง CSR โดยการคืนกลับสู่สังคมในรูปแบบการสนับสนุนทุนเพื่อพัฒนาต่อยอดให้กับสตาร์ทอัพไทยผ่านโครงการ Angel Fund นับตั้งแต่เปิดตัวโครงการ ในปี 2559 ได้มีการเสริมศักยภาพให้กับสตาร์ทอัปกว่า 200 ราย เป็นเงินทุนมากกว่า 33.16 ล้านบาท และช่วยสร้างงาน 927 ตำแหน่ง ซึ่งโครงการดังกล่าวมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการนำนวัตกรรมต่าง ๆ เข้าสู่ตลาดเชิงพาณิชย์ได้อย่างชัดเจน
สำหรับปีนี้ ทางบริษัทฯ ทุ่มเงินจำนวน 5 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการสนับสนุนเงินให้เปล่าแก่สตาร์อัปที่มีธุรกิจและผลิตภัณฑ์เชิงนวัตกรรม จำนวน 4 ล้านบาท และสนับสนุนผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์ จำนวน 1 ล้านบาท ให้สามารถต่อยอดการเริ่มต้นธุรกิจได้ และในฐานะผู้ให้การสนับสนุนด้านเงินทุนกับสตาร์ทอัป คิดว่าโจทย์ใหญ่ของสตาร์ทอัXไทยในปีนี้ คือ การเร่งคิดค้นนวัตกรรมหรือเทคโนโลยี เพื่อแก้ไขปัญหาของโลกในบริบทต่าง ๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างรุนแรง หรือ Climate Change ซึ่งมีผลกระทบต่อพวกเราทุกคนหรือจากสถานการณ์ปัจจุบันที่พวกเราต้องการสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ เพื่อให้คุณภาพชีวิตของพวกเราดีขึ้น
“โครงการฯ กําลังเติบโตขึ้น โดยในปีนี้ได้มีพันธมิตรใหม่อย่างสมาคมการค้าอินฟลูเอนเซอร์ไทย และ Shark Tank มาเสริมความแข็งแกร่ง จึงอยากจะกระตุ้นให้สตาร์ทอัปทุกคนใช้ประโยชน์จากโอกาสเหล่านี้ เพื่อเรียนรู้จากธุรกิจชั้นนำในประเทศไทยและสร้างความมั่นใจ โดยการเปิดรับสิ่งใหม่ ๆ และตระหนักว่าชีวิต คือการเปลี่ยนแปลงและความก้าวหน้า ซึ่งหวังว่าทุกคนจะสนุกกับความท้าทายในเหล่านี้ พร้อมกับนำความคิดไปต่อยอดพัฒนาธุรกิจไปสู่อีกระดับต่อไป” วิคเตอร์ เจิ้ง กล่าวทิ้งท้าย