ปลวกบ้าน หนึ่งในศัตรูที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และทั่วโลก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีอากาศร้อนชื้น สามารถกัดกินวัสดุและสร้างความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างไม้ทุกที่ทั้งอาคารบ้านเรือน สำนักงาน โรงเรียน และสถานที่ราชการ แต่การกำจัดปลวกในปัจจุบันยังคงพึ่งพาสารเคมีเป็นหลัก เช่น สารกำจัดปลวกในกลุ่ม Organophosphates และ Pyrethroids ซึ่งสามารถฆ่าปลวกและป้องกันการระบาด แต่การใช้สารเคมีเหล่านี้มีข้อเสียมากมาย ไม่ว่าจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และผลกระทบต่อสัตว์เลี้ยง การใช้ชีวภัณฑ์เพื่อควบคุมปลวกบ้าน จึงนับเป็นแนวทางเพื่อลดใช้สารเคมี และส่งเสริมสุขภาพของคน สัตว์เลี้ยง และรักษาสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน
ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และบริษัท ทีโพล์ โปรเฟสชั่นแนล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จึงลงนามความร่วมมือในโครงการ “การพัฒนากับดักราแมลงกำจัดปลวก” เพื่อมุ่งวิจัยราแมลงและพัฒนากับดักสำหรับกำจัดปลวกในที่อยู่อาศัย ด้วยวิธีชีวภาพ (Biocontrol) ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและปลอดภัยต่อมนุษย์และสัตว์เลี้ยง ภายใต้การสนับสนุนจากโปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม (ITAP) โดยตั้งเป้าสร้างกับดักปลวกชีวภาพ 100% ด้วยการใช้ราแมลงแทนสารเคมี
ดร.อลงกรณ์ อำนวยกาญจนสิน นักวิจัยอาวุโส หัวหน้าทีมวิจัยเทคโนโลยีการควบคุมทางชีวภาพ ไบโอเทค เปิดเผยว่า ปัจจุบันมนุษย์ให้ความสำคัญต่อสภาพแวดล้อมการเป็นอยู่ที่ปลอดภัย จึงหันมาเลือกใช้สิ่งของอุปโภคบริโภคที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงทางเลือกในการใช้ชีวิตที่ลดสารเคมีลง ชีวภัณฑ์จึงเข้ามาเป็นทางเลือกใหม่ในการใช้ควบคุมศัตรูพืชต่าง ๆ ที่มีความยั่งยืน นำไปสู่การศึกษาประสิทธิภาพของชีวภัณฑ์ราแมลงที่มีความสามารถในการฆ่าแมลงที่จำเพาะเจาะจงในปลวก Coptotermes gestroi สำหรับพัฒนาเป็นกับดักปลวกแบบชีวภาพ (100% Organic) โดยใช้ราแมลงทดแทนสารเคมีกำจัดแมลงได้ในอนาคต การศึกษาวิจัยด้านการใช้ชีวภัณฑ์ราแมลง เพื่อกำจัดปลวกบ้านนั้นเป็นเรื่องที่ท้าทาย เนื่องจากปลวกบ้าน (Coptotermes gestroi) เป็นศัตรูสำคัญและสร้างความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารและบ้านเรือน ปัจจุบันวิธีที่ใช้อยู่คือสารเคมี การใช้ราแมลงมาควบคุมเป็นแนวทางใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและเป็นผลิตภัณฑ์ทางเลือกใหม่ในการจัดการปลวกบ้านแบบธรรมชาติ
“วิธีกำจัดปลวกของรา คือ ราจะเข้าไปอาศัยในตัวแมลงเพื่อใช้เป็นแหล่งอาหาร แล้วราจะค่อยๆ เจริญเติบโตจนแมลงเจ้าบ้านตายในที่สุด และจะพัฒนาโครงสร้างที่ใช้ในการสืบพันธุ์ที่เต็มไปด้วยสปอร์งอกบนซากของแมลง สปอร์ราที่มีการพัฒนาสมบูรณ์แล้วก็พร้อมเข้าทำลายแมลงเจ้าบ้านตัวใหม่ต่อไป ราแมลงจึงจัดว่าเป็นการพัฒนาสารชีวภัณฑ์ที่ออกฤทธิ์ควบคุมแมลงได้ดีขึ้น ไม่มีสารพิษตกค้าง และไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้และผู้บริโภค ซึ่งจะนำไปสู่การลดหรือทดแทนสารเคมีได้ในอนาคต”ดร.อลงกรณ์ กล่าว
การใช้ชีวภัณฑ์อย่างราแมลง จึงถือว่ามีความปลอดภัยมาก เนื่องจากจุลินทรีย์ที่เป็นชีวภัณฑ์เหล่านี้ได้ผ่านการทดสอบพิษวิทยาแล้วว่าไม่สามารถเติบโตได้ในอุณหภูมิร่างกายมนุษย์ และปลอดภัยต่อสัตว์เลือดอุ่น ซึ่งถือเป็นทางเลือกที่ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจในความปลอดภัย เนื่องจากจุลินทรีย์ก็เป็นสิ่งมีชีวิต เมื่อเราฉีดพ่นไป ถ้าไม่มีปลวกอยู่ จุลินทรีย์เหล่านี้ก็จะตายลง โดยไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ ใน 1 ปีต่อจากนี้ เราหวังว่าจะมีต้นแบบให้บริษัทฯ ออกเป็นผลิตภัณฑ์ต่อไป
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เชาวรีย์ อรรถลังรอง ผู้อำนวยการศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) กล่าวว่า จากข้อได้เปรียบเรื่องทรัพยากรความหลากหลายทางชีวภาพสูงของไทย สวทช. โดยศูนย์ชีววัสดุประเทศไทย (TBRC) ได้รวบรวมจัดทำคลังจุลินทรีย์ของประเทศ ซึ่งมีทั้งเชื้อรา แบคทีเรีย และยีสต์ เป็นจำนวนมาก โดยทีมวิจัยเทคโนโลยีการควบคุมทางชีวภาพ ไบโอเทค ได้มุ่งค้นหาและศึกษาจุลินทรีย์ที่มีคุณสมบัติเป็นชีวภัณฑ์ด้านการเกษตรที่โดดเด่นจาก TBRC ปัจจุบันสามารถถ่ายทอดออกสู่ภาคเอกชน และผลักดันเผยแพร่ให้เป็นที่รู้จัก ชีวภัณฑ์ควบคุมแมลงศัตรูพืชเพื่อใช้ในการเกษตรหลายชนิด อาทิ ราบิวเวอเรีย (Beauveria bassiana) สำหรับควบคุมแมลงกลุ่มเพลี้ย ราเมตาไรเซียม (Metarhizium) สำหรับควบคุมไรแดง การลงนามริเริ่มโครงการ “การพัฒนากับดักราแมลงกำจัดปลวก” ในครั้งนี้ จึงเป็นการพัฒนาชีวภัณฑ์เพื่อขยายผลสู่แมลงรบกวน ที่เป็นปัญหาสำคัญในครัวเรือน
“เรามีความพร้อมอย่างมากในการพัฒนากับดักราแมลงสำหรับกำจัดปลวก ด้วยทีมวิจัยที่มีความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีชีววิธีที่ทันสมัย นำโดย ดร.อลงกรณ์ อำนวยกาญจนสิน ผู้มีประสบการณ์ด้านการวิจัยชีวภาพ(Biocontrol) มากว่า 10 ปี นอกจากนี้ เรายังมีคลังจุลินทรีย์ขนาดใหญ่ที่เก็บรักษาสายพันธุ์จุลินทรีย์กว่า 100,000 สายพันธุ์ ซึ่งแต่ละสายพันธุ์สามารถนำไปพัฒนาต่อยอดในงานต่าง ๆ ได้หลากหลาย ทั้งในด้านการรักษาสิ่งแวดล้อมและการแก้ปัญหาอย่างปลอดภัยและยั่งยืน” ผู้อำนวยการไบโอเทค กล่าว
ด้าน นายแพทย์ณรงค์ฤทธิ์ ตั้งคารวคุณ กรรมการ บริษัท ทีโพล์ โปรเฟสชั่นแนล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า ที่ผ่านมาบริษัทฯ ทำตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ในครัวเรือน ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ผลิตภัณฑ์ด้านสุขอนามัย และผลิตภัณฑ์กำจัดแมลงในบ้านเรือน จนถึงกลุ่มธุรกิจภาคอุตสาหกรรม และอนาคตจะพัฒนาถึงกลุ่มโรงงานผลิตยาและผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ โดยทิศทางของบริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมชีวภัณฑ์กำจัดแมลง ซึ่งในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์ชีวภัณฑ์ในพอร์ตโฟลิโอของเราให้ถึง 20% และสร้างระบบสนับสนุนเกษตรกรให้เข้าถึงผลิตภัณฑ์ของเราได้ง่ายขึ้น
“ชีวภัณฑ์กำจัดแมลงไม่ใช่แค่ธุรกิจ แต่คือคำมั่นสัญญาของเราที่จะช่วยเกษตรกรและรักษาสิ่งแวดล้อม บริษัทของเราพร้อมแล้วที่จะนำพาอุตสาหกรรมนี้ไปสู่อนาคตที่ดีกว่า” ด้วยโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญในการสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจกับการรักษาสิ่งแวดล้อม สำหรับบริษัทฯ การเติบโตในอุตสาหกรรมนี้ ไม่ได้เป็นเพียงเป้าหมายทางธุรกิจ แต่ยังเป็นพันธกิจที่จะช่วยขับเคลื่อนอนาคตที่ยั่งยืน” นายแพทย์ณรงค์ฤทธิ์ กล่าว