อาซีฟา ชูโซลูชันทันสมัยจากชไนเดอร์ อิเล็คทริค รุกตลาดโครงสร้างพื้นฐานพลังงาน รองรับการขยายตัวของดาต้าเซ็นเตอร์


อาซีฟา (ASEFA) ผนึกกำลัง ชไนเดอร์ อิเล็คทริค รุกตลาดโครงสร้างพื้นฐานพลังงานสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ เสริมทัพเทคโนโลยีล้ำสมัย ผสมผสานกับความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรม สร้างโครงสร้างพื้นฐานที่ประหยัดพลังงานและยั่งยืน รองรับเทรนด์การเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลและการประมวลผลข้อมูลในยุคปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ต้องการระบบจ่ายพลังงานที่เชื่อถือได้ และมีความมั่นคงด้านพลังงาน

ปัจจุบันภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ได้เปลี่ยนผ่าน (Transform) สู่ระบบดิจิทัล ทำให้ความต้องการใช้งานด้านคลาวด์และดาต้าเซ็นเตอร์สูงขึ้น อีกทั้งการเกิดขึ้นของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ทำให้การใช้พลังงานจากการประมวลผลในดาต้าเซ็นเตอร์มีมากขึ้น จำเป็นต้องมีระบบจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ รองรับการใช้พลังงานที่สูงขึ้นอย่างฉับพลันโดยไม่มีปัญหา และต้องเชื่อถือได้ เพื่อความต่อเนื่องในการใช้งาน

ไพบูลย์ อังคณากรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาซีฟา จำกัด (มหาชน) หรือ ASEFA ผู้นำการผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์กระจายและส่งจ่ายไฟฟ้า สวิตซ์บอร์ดไฟฟ้า ระบบควบคุมอัตโนมัติ ระบบบริหารจัดการพลังงาน กล่าวว่า ASEFA เป็นบริษัทด้านวิศวกรรม (Engineering Company) ดำเนินธุรกิจมา 27 ปี โดยเป็นพันธมิตรกับชไนเดอร์มายาวนานกว่า 20 ปี และเป็นหนึ่งในผู้ผลิตสวิตซ์บอร์ดไฟฟ้า รวมถึง Medium Voltage และ Low Voltage รวมถึงระบบบริหารจัดการพลังงาน โดยมีพนักงาน1,300 คน แบ่งเป็นวิศวกรและผู้ชำนาญการ 250 คน ซึ่งเพียงพอที่จะให้บริการลูกค้าก่อนและหลังการขายแบบครบวงจร

ตู้สวิตช์บอร์ด BlokSeT กระจายและส่งจ่ายไฟฟ้าให้ดาต้าเซ็นเตอร์

เทคโนโลยีตู้สวิตช์บอร์ด BlokSeT ตู้สวิตช์เกียร์ MV รุ่น PIX ช่วยสร้างความปลอดภัยให้ระบบไฟฟ้าในอาคาร โรงแรม โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า โรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงระบบสาธารณูปโภคต่างๆ

“ชไนเดอร์ อิเล็คทริคมีสินค้าและโซลูชันต่างๆ ตั้งแต่ Medium Voltage และ Low Voltage ระบบผลิตจัดการพลังงานที่ค่อนข้างสมบูรณ์ มีระบบ Redundant มีระบบ Cooling หล่อเย็น ระบบบริหารจัดการพลังงานที่ครบถ้วนและสมบูรณ์ โดยอาซีฟาผลิตสวิตช์บอร์ด BlokSeT และ Main Curcuit Breaker ที่สามารถ Customize ให้ลูกค้าตามแบบที่ต้องการ มีบริการวิศวกรก่อนและหลังการขายให้บริการ ปรับปรุงและซ่อมสร้าง” ไพบูลย์ กล่าว

ปีนี้ตลาดต่างประเทศในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพลังงานไฟฟ้ายังเป็นเรื่องที่จำเป็น โดยเฉพาะดาต้าเซ็นเตอร์และ AI ดาต้าเซ็นเตอร์ รวมทั้ง Hyperscale ใหม่ๆ ปัจจุบันมี AI ดาต้าเซ็นเตอร์ที่ใช้ไฟจำนวนมาก เมื่อเทียบประเทศไทยกับสิงคโปร์ และมาเลเซีย จากเดิมที่มีดาต้าเซ็นเตอร์ขนาด 5 MW ต่อไปจะมีขนาด 30,50 และ100 MW ซึ่งมีขนาดเท่ากับจังหวัดหนึ่งของไทย เช่น แม่ฮ่องสอน โดยจะเป็นดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดเล็ก จะเห็นได้ว่ามีการใช้ไฟมหาศาล ขึ้นอยู่กับการไฟฟ้า และโครงการต่างๆของภาครัฐ

ไพบูลย์ ชู 4 แนวคิดหลักของอาซีฟาในการส่งมอบระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ ให้กับลูกค้า ได้แก่ 1.การส่งมอบนวัตกรรมที่มีความเชื่อถือได้ เพื่อรองรับการทำงานของดาต้าเซ็นเตอร์อย่างต่อเนื่อง 2.ต้องมีประสิทธิภาพด้านพลังงาน ลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็น และรองรับการใช้พลังงานหมุนเวียน 3.การตอบสนองความต้องการที่จำเป็น มีโซลูชันที่ยืดหยุ่นและปรับเพิ่มได้โดยไม่ยุ่งยาก เพื่อรองรับความต้องการของดาต้าเซ็นเตอร์ทุกขนาด และ 4.มีความยั่งยืน เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมการดำเนินงานที่สอดคล้องกับเป้าหมายความยั่งยืนระดับโลก โดยผลิตภัณฑ์ที่เลือกติดตั้งให้กับลูกค้ามุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ที่มีคาร์บอนต่ำ

“เราภูมิใจที่ได้ร่วมมือกับ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันพลังงานและระบบอัตโนมัติ ความร่วมมือนี้ช่วยเสริมศักยภาพของอาซีฟาในการพัฒนาและส่งมอบโซลูชันที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืนสำหรับตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในยุคดิจิทัล ด้วยการนำเทคโนโลยีล้ำสมัยของ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ไม่ว่าจะเป็น ตู้สวิตช์บอร์ด BlokSeT และ ตู้สวิตช์เกียร์ MV รุ่น PIX ที่ทางเราได้รับลิขสิทธิ์ในการผลิต รวมถึงซอฟต์แวร์ Building Management Systems (BMS) ฯลฯ ผสานกับความเชี่ยวชาญของอาซีฟาในการออกแบบ ติดตั้ง และดูแลระบบไฟฟ้า ทำให้เราสามารถตอบสนองความต้องการที่ซับซ้อนของดาต้าเซ็นเตอร์ทุกประเภท” ไพบูลย์ กล่าว

ในปีนี้ อาซีฟามีรายได้ 3,500 ล้านบาท โดยมีลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชนได้แก่ การไฟฟ้า โครงการต่างๆ เช่น สนามบิน รถไฟฟ้า ท่าเรือ โรงงานอุตสาหกรรม ห้างสรรพสินค้า รวมถึง Data Centerคาดการณ์ว่ามีรายได้จากดาต้าเซ็นเตอร์ 10% และภายใน 3 ปีข้างหน้า ตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ จะเติบโตก้าวกระโดด 3-4 เท่า

ด้านเผดิมศักดิ์ รัตนเรืองศักดิ์ รองประธานฝ่ายธุรกิจ เพาเวอร์ โพรดักส์ ดูแลกลุ่มคลัสเตอร์ ไทย ลาว และเมียนมา ชไนเดอร์ อิเล็คทริค กล่าวว่า บริษัทฯ มองเห็นศักยภาพของตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ โดยเฉพาะในยุคที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ IoT (Intenet of Things) และเศรษฐกิจดิจิทัลเติบโตมากขึ้น ด้วยความร่วมมือระหว่าง อาซีฟา และ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค จะช่วยผลักดัน และสนับสนุนการลดการใช้พลังงานและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วยเทคโนโลยี ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายด้านความยั่งยืนของทั้งสององค์กร

“ อาซีฟาเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในอาเซียนที่มีความพร้อมเรื่อง Industrialize และ Footprint มีบุคลากรที่แข็งแกร่ง และ Technical Expert โดยชไนเดอร์เป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับอาซีฟา ตั้งแต่ ปี 2546 จนถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า 21 ปีแล้ว ส่วนเรามีโซลูชันแบบ End -to End ที่มีประสิทธิภาพและเสถียรภาพ ซึ่งถือว่าเป็นจุดแข็งของ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค โดยพัฒนาให้เหมาะสมต่อการใช้งานของลูกค้า ” เผดิมศักดิ์ กล่าว

พาเยี่ยมชมโชว์รูมอาซีฟา บริเวณชั้น 1 ซึ่งจัดแสดงสินค้าและโซลูชันของชไนเดอร์ อิเล็คทริค

ในส่วนของเทคโนโลยีตู้สวิตช์บอร์ด BlokSeT ตู้สวิตช์เกียร์ MV รุ่น PIX รวมถึงซอฟต์แวร์ BMS ช่วยบริหารจัดการพลังงานจากชไนเดอร์ อิเล็คทริค ช่วยสร้างความยั่งยืนในดาต้าเซ็นเตอร์ โดยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และลดการสูญเสียพลังงานในระบบต่างๆ โดย BlokSeT ช่วยควบคุมการกระจายพลังงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุดในดาต้าเซ็นเตอร์ รองรับเทียร์ (Tier) ด้านการจ่ายพลังงานได้ถึงเทียร์ 4 ขณะที่ BMS ช่วยจัดการพลังงานในอาคารที่มีดาต้าเซ็นเตอร์ได้อย่างชาญฉลาดด้วยการตรวจสอบและควบคุมระบบไฟฟ้า ช่วยเพิ่มความเสถียรและความปลอดภัยในดาต้าเซ็นเตอร์ พร้อมทั้งสนับสนุนการดำเนินงานที่ยั่งยืน โดยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและเพิ่มความสามารถในการขยายระบบในอนาคต รวมทั้งนวัตกรรม Cooling ที่ช่วยประหยัดพลังงาน

นอกจากนี้ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ยังร่วมกับ อาซีฟา จัดงานสัมมนาเพื่อถ่ายทอดประสบการณ์และองค์ความรู้ด้าน AI ดาต้าเซ็นเตอร์ อย่างครบวงจร ทั้งในเรื่องของเทรนด์ เทคโนโลยีด้านดาต้าเซ็นเตอร์ล่าสุด อาทิ EcoStruxure ไมโครดาต้าเซ็นเตอร์ ทั้งแบบโมดูลาร์ และแบบ Prefabricated รวมถึงเทคโนโลยี UPS ที่มีคุณสมบัติ high density สูงสำหรับ AI ดาต้าเซ็นเตอร์โดยเฉพาะ และ UPS อื่นๆ ที่เหมาะสมกับแต่ละความต้องการด้านโครงสร้างไอที นวัตกรรมระบบทำความเย็นหลากหลายรูปแบบ ฯลฯ โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนา 200 ท่าน จากกลุ่มผู้รับเหมา และไอที เป็นต้น

“เรามุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในโซลูชันด้านการจ่ายพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ พร้อมส่งมอบนวัตกรรมที่ยั่งยืน เชื่อถือได้ เพื่อให้ภาคธุรกิจสามารถขับเคลื่อนอย่างมีประสิทธิภาพได้ในโลกดิจิทัล และความมั่นคงด้านพลังงานให้กับดาต้าเซ็นเตอร์ทุกระดับ ตั้งแต่ เอจด์ดาต้าเซ็นเตอร์ ไปจนถึงดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ขององค์กร รวมถึงโคโลเคชัน และดาต้าเซ็นเตอร์สำหรับ AI ด้วยโซลูชันด้านพลังงานที่หลากหลาย มุ่งเน้นมาตรฐานคุณภาพระดับสากล พร้อมการบริการแบบครบวงจร และความใส่ใจในความยั่งยืน เพื่อสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลและการเชื่อมต่อที่ไร้ขอบเขตในอนาคต” ไพบูลย์ กล่าวทิ้งท้าย


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save