“ในทุกแห่งที่ อมตะ วีเอ็นเข้าไปดำเนินธุรกิจ เป้าหมายหลักคือ การสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน ส่งต่อสู่ชุมชนนั้นๆ โดยสะท้อนอยู่ในชื่อ ‘อมตะ’ ซึ่งในภาษาสันสกฤตหมายถึง ‘ความเป็นนิรันดร์’”ในภาษาสันสกฤต” สมหะทัย กล่าว

ปัจจุบัน กลุ่มอมตะวีเอ็นมีพื้นที่รองรับบริษัทชั้นนำกว่า 200 แห่ง ได้สร้างงานกว่า 60,000 ตำแหน่ง พร้อมระบบสาธารณูปโภคโครงสร้างพื้นฐานที่สนับสนุนการผลิต เช่น ระบบการจัดการน้ำ บำบัดน้ำเสีย การจัดการพลังงานที่มีเสถียรภาพ ระบบโทรคมนาคมและพลังงานหมุนเวียน โดยเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์ที่ใช้ในนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งรองรับการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมแห่งอนาคต
นอกจากนี้นิคมอุตสาหกรรมของกลุ่มอมตะวีเอ็นตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ เชื่อมต่อโครงข่ายคมนาคม ใกล้เมืองสำคัญและท่าเรือหลัก เป็นที่ตั้งของโรงงานจากบริษัทระดับโลกใน Global Fortune 500 (2023) อาทิ Nestlé, PepsiCo, Swarovski, Shiseido, Brother, Tiger, Kao, Jinko Solar, Autoliv, Foxconn, YKK และ Kingfa

กลุ่มอมตะวีเอ็นมุ่งมั่นผลักดันเวียดนามสู่การเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง ควบคู่กับการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยขยายแนวคิดนิคมอุตสาหกรรมอัจฉริยะที่มีโครงสร้างสาธารณูปโภคดิจิทัลครบวงจร พร้อมยกระดับมาตรฐานด้าน ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล) เป็นแนวปฏิบัติหลัก เพื่อสนับสนุนเป้าหมาย Net Zero Carbon ของเวียดนาม