แหล่งผลิตไฟฟ้าแบบกระจายศูนย์ (DER) ที่มีประสิทธิภาพ เริ่มต้นจากระบบการจัดการและไมโครกริด


แหล่งผลิตไฟฟ้าแบบกระจายศูนย์ (DER) ที่มีประสิทธิภาพ เริ่มต้นจากระบบการจัดการและไมโครกริด

ความพยายามในการลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ของอุตสาหกรรมพลังงานกำลังให้ผลตอบแทนอันคุ้มค่า สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (International Energy Agency :IEA) เผยว่าปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับพลังงานทั่วโลกลดลง 1.3 เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่ปี 2018 ซึ่งต้องขอบคุณภาคพลังงานที่หันมาใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียนกันเพิ่มขึ้น รวมไปถึงความพยายามในการเปลี่ยนเชื้อเพลิงจากถ่านหินเป็นก๊าซธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง

IEA ได้ตอกย้ำในความสำคัญและชี้ให้เห็นผลการเปลี่ยนแปลงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การที่อุตสาหกรรมพลังงานเลือกใช้แหล่งผลิตพลังงานที่ปล่อยมลพิษต่ำ และเปลี่ยนแปลงระบบเครือข่ายไฟฟ้าให้เป็นระบบดิจิทัลสำหรับอนาคตที่ต้องการทำให้เกิดคาร์บอนต่ำ

แหล่งผลิตไฟฟ้าแบบกระจายศูนย์ (DER) ที่มีประสิทธิภาพ เริ่มต้นจากระบบการจัดการและไมโครกริด

การเปลี่ยนจากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลในการผลิตไฟฟ้า เป็นการใช้แหล่งผลิตไฟฟ้าแบบกระจายศูนย์ (Distributed Energy Resources, DER) อาทิ พลังงานลม พลังงานจากแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการลดปริมาณคาร์บอน อย่างไรก็ตามเมื่อมีการนำแหล่งพลังงานกระจายศูนย์เหล่านี้เข้ามาใช้มากขึ้น จะสร้างโจทย์ความท้าทายที่ซับซ้อนให้กับระบบจำหน่ายไฟฟ้า อย่างเช่น ความสามารถในการคาดการณ์ความพร้อมของแหล่งพลังงานแบบกระจายศูนย์นั้นเป็นเรื่องยาก, ความน่าเชื่อถือและคุณภาพของกำลังไฟฟ้าลดลง หากแหล่งพลังงานแบบกระจายศูนย์ทั้งหมดไม่ได้ถูกจัดการอย่างเหมาะสม, การนำยานยนต์ไฟฟ้า (EV) มาใช้เพิ่มมากขึ้นทำให้เกิดความตึงเครียดในระบบโครงข่ายไฟฟ้า เนื่องจากเวลาในการชาร์จไม่คงที่เท่ากันทุกครั้ง ซึ่งทำให้การควบคุมและการสร้างความสมดุลในการใช้พลังงานสูงสุดมีความท้าทายมากขึ้น,  การให้บริการสาธารณูปโภคต้องมีการปรับสมดุล ด้วยความยืดหยุ่นและโซลูชั่นที่ตอบสนองได้ตามความต้องการ และอัตราการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้น เพิ่มความซับซ้อนในการบริหารจัดการโครงข่ายการจ่ายกระแสไฟฟ้ามากขึ้น

ความท้าทายเหล่านี้สามารถแก้ด้วยการใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการช่วยปรับปรุงการจัดการและการควบคุมโครงข่ายการจ่ายกระแสไฟฟ้า รวมไปถึงการดูแลเครือข่ายและข้อมูลสินทรัพย์แบบเรียลไทม์ ช่วยให้บริษัทผู้ผลิตไฟฟ้ามีความสามารถที่ดีมากขึ้นในการจัดการระบบของตน แม้ว่าจะมีเทคโนโลยีหลายตัวที่สามารถนำเอามาทำงานร่วมกัน เพื่อให้เกิดระบบที่มีประสิทธิภาพ แต่เรื่องระบบการจัดการแหล่งผลิตพลังงานแบบกระจายศูนย์ (DERMS) และไมโครกริด คือสองโซลูชันที่โดดเด่นสำหรับเรื่องนี้

แหล่งผลิตไฟฟ้าแบบกระจายศูนย์ (DER) ที่มีประสิทธิภาพ เริ่มต้นจากระบบการจัดการและไมโครกริด

จุดเด่นของ DERMS และ ไมโครกริด

การสร้างสมดุลในการใช้งานแหล่งผลิตพลังงานแบบกระจายศูนย์อย่างเหมาะสม และการจัดการระบบนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพคือคุณสมบัติที่ DERMS ทำได้ดี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในความสามารถของแพลตฟอร์ม ADMS หรือในระบบอื่นๆ ของสาธารณูปโภคที่ไม่ได้นำ ADMS มาใช้ในการจัดการ

DERMS เป็นโซลูชันที่เน้นสำหรับการจัดการโครงข่ายการกระจายไฟฟ้า และเพิ่มประสิทธิภาพการผสานรวมและการใช้งานแหล่งผลิตพลังงานแบบกระจายศูนย์ (DER) ด้วยการวิเคราะห์แบบรวมศูนย์และควบคุมแหล่งพลังงานแบบกระจายทุกประเภท และตรวจหาปัญหาที่อาจเกิดขึ้น โดยคำนวณกระแสไฟฟ้าและคาดการณ์ปริมาณการใช้และการผลิตไฟฟ้าล่วงหน้า

เป้าหมายหลักในการนำเอา DERMS มาใช้งานคือ การปรับปรุงการวางแผนการปฏิบัติงาน การจัดการและการควบคุมโดยใช้ข้อมูลเชิงลึกที่ถูกต้องในเครือข่ายการกระจายไฟฟ้า โดยใช้ความสามารถในการติดตาม คาดการณ์ และควบคุมได้ทั่วโลก

ไมโครกริด มีบทบาทสำคัญที่แตกต่างออกไป เพื่อความยั่งยืนในอนาคต มีความจำเป็นต้องสร้างความยืดหยุ่นให้กับโครงข่ายการกระจายกระแสไฟฟ้าหลัก เพื่อให้มั่นใจได้ว่ามีแหล่งพลังงานสีเขียวที่เชื่อถือได้

ไมโครกริด หรือโครงข่ายพลังงานในท้องถิ่นที่มีความสามารถในการควบคุม มักได้รับการการยกย่องว่ามีประสิทธิภาพในการเป็นแหล่งพลังงาน ทั้งในการใช้งานโดยตรงและการสำรองให้กับโรงงานหรือชุมชน

การนำไปใช้งานที่มากไปกว่านั้น ด้วยการให้ความสำคัญกับโครงข่ายการจ่ายไฟฟ้าโดยการตรวจสอบให้โครงข่ายนั้นยังคงสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่องในช่วงที่ปริมาณการใช้ไฟฟ้าอยู่ในระดับสูง หรือในสภาพของแหล่งพลังงานแบบกระจายนั้นไม่สามารถผลิตไฟฟ้าได้ เนื่องจากมีตัวแปรจากทางธรรมชาติ

ทั้งหมดเป็นโซลูชันที่ได้รับการพิสูจน์แล้วในการรักษาพลังงานให้ไหลเวียนระหว่างช่วงหยุดทำงานหรือเมื่อโครงข่ายไม่สามารถจ่ายกระแสไฟได้ ป้องกันค่าเสียหายราคาแพงที่เกิดขึ้นจากสภาวะไฟดับ ส่งผลให้เกิดการการหยุดทำงาน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวลเป็นพิเศษ เพราะในพื้นที่ส่วนใหญ่ของโลก โครงสร้างระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าเริ่มเสื่อมสภาพ ดังนั้น การนำพลังงานแบบกระจายศูนย์มาใช้งานอาจเป็นเหตุให้เกิดไฟดับบ่อยมากขึ้น

อุตสาหกรรมพลังงาน คือ ภาคส่วนที่สำคัญอันดับหนึ่งของโลกที่จะช่วยลดการสร้างก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ แต่ต้องมองหาแนวทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วย แนวทางนั้น หมายรวมถึงการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ อย่างเช่น DERMS และ ไมโครกริด เพื่อลดก๊าซคาร์บอนต่ำอย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต พร้อมทั้งเพิ่มการรวมแหล่งผลิตพลังงานแบบกระจายศูนย์ เข้ามาใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าในระดับสูงสุด และเตรียมพร้อมสำหรับแนวโน้มการเติบโตที่อาจทำให้เกิดความตึงเครียดให้กับโครงข่ายการกระจายกระแสไฟฟ้า เช่น การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า

 

โดย เฟรเดอริค โกเดเมล

รองประธานบริหาร ระบบพลังงานและบริการ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค (Schneider Electric)


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save