เฟ้ลปส์ ดอด์จ เผยแผนลงทุนปี’65 ทุ่มงบ 1,000 ล้านบาท แตกไลน์ผลิตสายเคเบิลแรงดันสูงพิเศษ 500 kVแห่งแรกใน SEA


เฟ้ลปส์ ดอด์จ เผยแผนลงทุนปี’65  ทุ่มงบ 1,000 ล้านบาท แตกไลน์ผลิตสายเคเบิลแรงดันสูงพิเศษ 500 kVแห่งแรกใน SEA

กรุงเทพฯ – 16 พฤศจิกายน 2564: บริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้นำเทคโนโลยีทางด้านการผลิตสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ลอันดับ 1 ซึ่งมีเครือข่ายธุรกิจเชื่อมโยงกับฐานการผลิตและสำนักงานต่าง ๆ ในทวีปอเมริกา เอเชียและแอฟริกา เผยแผนกลยุทธ์ปี พ.ศ. 2565 เพิ่มงบลงทุน กว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อแตกไลน์การผลิตสายเคเบิลระดับแรงดันสูงพิเศษ (Extra High Voltage Cable) 500 กิโลโวลต์ แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองรับการขยายตัวของระบบสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ทั่วโลก ตั้งเป้าเพิ่มรายได้ให้บริษัทฯ 20,000 ล้านบาท ภายในปี พ.ศ. 2569

กิตติศักดิ์ จิตต์ประเสริฐงาม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่าเฟ้ลปส์ ดอด์จ ดำเนินธุรกิจมากว่า 50 ปี เพื่อผลิตสายไฟฟ้าที่มีคุณภาพมาตรฐานระดับโลกได้รับการรับรองคุณภาพ ISO 9001:2015, ISO 14001:2015 และ OHSAS 18001:2015 จาก UL แห่งสหรัฐอเมริกา ตลอดจนประกาศนียบัตรรับรองคุณภาพอื่น ๆ ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพไปจนถึงการทดสอบผลิตภัณฑ์ก่อนส่งถึงมือลูกค้าเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั้งภายในประเทศและส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศตามมาตรฐานสากล เพื่อรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่หลากหลาย 

เฟ้ลปส์ ดอด์จในฐานะแบรนด์ชั้นนำที่ผสานเทคโนโลยีและนวัตกรรมสู่ทุกประเภทสายไฟฟ้าในตลาดผลิตภัณฑ์สายไฟฟ้าและเคเบิล ปัจจุบันมีโรงงานอยู่ที่อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ และจังหวัดระยอง มีอัตราการเติบโตของรายได้โดยเฉลี่ยต่อปีที่เพิ่มขึ้นถึง 20% ติดต่อกันตั้งแต่พ.ศ. 2560 จนถึงปัจจุบัน

สำหรับผลิตภัณฑ์สายไฟฟ้าและเคเบิลของบริษัทฯได้รับการพัฒนาให้รองรับการใช้งานทุกความต้องการ ตั้งแต่ระดับแรงดันต่ำ แรงดันปานกลาง แรงดันสูง และแรงดันสูงพิเศษ เพื่อตอบสนองในทุกกลุ่มอุตสาหกรรมทั้งในประเทศและต่างประเทศ ประกอบด้วย 1.กลุ่มอุตสาหกรรม Building and Construction  สายไฟที่ใช้ในงานอาคารสูง อาคารสาธารณะ อาคารขนาดใหญ่พิเศษ 2.กลุ่ม Utilities and Infrastructure  สายไฟที่ใช้ในงานสาธารณูปโภค โรงไฟฟ้า สถานีไฟฟ้า การส่งจ่ายกำลังไฟบนดินและใต้ดิน 3.กลุ่ม Industrial, Oil & Gas, Petrochemical สายไฟที่ใช้ในอุตสาหกรรมทั่วไป อุตสาหกรรมปิโตรเคมี วัสดุพอลิเมอร์ น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ 4.กลุ่ม Mass Rapid and Transportation  สายไฟฟ้าที่ใช้ในระบบขนส่งสาธารณะ รถไฟฟ้า BTS, MRT, Airport Rail Link และรถไฟความเร็วสูง และ 5.กลุ่ม Renewable Energy สายไฟฟ้าและสายเคเบิลสำหรับรองรับการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด จากการเติบโตที่มีมาอย่างต่อเนื่อง

กิตติศักดิ์ กล่าวถึงกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจว่า บริษัทฯ ได้วางแผนการดำเนินธุรกิจสานต่อกับพันธกิจหลักในการส่งมอบสายไฟฟ้าและเคเบิลคุณภาพสูงเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยขยายโอกาสทางธุรกิจไปยังตลาดใหม่ ๆ ซึ่งเป้าหมายหลักยังคงเป็นประเทศที่มีการขยายภาคสาธารณูปโภคและโครงการขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง เช่น ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยคาดการณ์ในช่วง 10 ปีข้างหน้า กลุ่มเอเชียแปซิฟิกจะมีอัตราการเติบโตสูงที่สุดโดยเฉลี่ยอยู่ประมาณ 7% ต่อปี เพื่อตอกย้ำการพัฒนาที่ไม่หยุดนิ่งและบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ บริษัทฯ จึงตัดสินใจเพิ่มไลน์การผลิตสายไฟฟ้าชนิดพิเศษและเสริมศักยภาพในการผลิต ด้วยงบลงทุนจำนวน 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินลงทุนจำนวน 400 ล้านบาท
เพื่อยกระดับสายการผลิต Underground Cable สูงสุดถึง 500 กิโลโวลต์ ซึ่งมีจุดเด่นในการใช้เทคโนโลยีการหุ้มฉนวน XLPE ซึโดยบริษัทฯได้นำเข้าเครื่องจักรที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงระดับโลกอย่าง Nokia Maillefer จากประเทศฟินแลนด์ เข้ามาใช้ในระบบควบคุมกระบวนการผลิต ซึ่งมีความละเอียดและแม่นยำสูงแบบ Real-Time เพื่อความปลอดภัยสูงสุด พร้อมห้องทดสอบแรงดันฟ้าผ่าสูงสุดถึง 2,000 กิโลโวลต์ และอีก 600 ล้านบาท เพื่อสร้างการเติบโต เพิ่มศักยภาพในการผลิต ตอบสนองความต้องการการใช้พลังงานไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มผลิตสายเคเบิลแรงดันสูงพิเศษ 500 กิโลโวลต์ได้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ปีพ.ศ.2565 เป็นต้นไป

ปัจจุบันมูลค่าตลาดรวมของอุตสาหกรรมสายไฟฟ้าและเคเบิลในประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ 55,000 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 20%  ซึ่งรายได้หลักของธุรกิจแบ่งเป็นรายได้จากในประเทศ 80% และต่างประเทศ
20% คิดเป็นสัดส่วนรายได้ภาครัฐ 30% และภาคเอกชน 70%โดยรายได้ประมาณ 50% มาจากภาคโครงสร้างพื้นฐาน และโครงการขนาดใหญ่ ครอบคลุมกลุ่มโรงผลิตไฟฟ้า โรงงานอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ โรงงานทั่วไป และอาคารสูง และอีก 50% ที่เหลือมาจากผู้แทนจำหน่าย ทั้งที่เป็นโมเดิร์นเทรดและร้านจำหน่ายสายไฟฟ้าทั่วไป

กิตติศักดิ์ กล่าวถึงผลประกอบการของบริษัทฯในปี พ.ศ.2564 ว่า  บริษัทฯตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ไว้ประมาณ 30% มีส่วนแบ่งการตลาดไว้ประมาณ 20% โดยการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี พ.ศ.2564 ช่วงที่ผ่านมา สิ้นสุดไตรมาส ที่ 3 ปีพ.ศ.2564 ใน 9 เดือน  บริษัทฯมีรายได้ 10,182 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดรายได้ 7,019 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศควบคู่กัน แม้จะมีสถานการณ์ COVID-19 แพร่ระบาดทั้งในและต่างประเทศ แต่ความต้องการใช้ไฟฟ้ากลับเพิ่มขึ้นทั้งภาคอุตสาหกรรมและภาคครัวเรือน รวมถึงการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน และการขนส่งสาธารณะในรูปแบบใหม่ ๆ เพื่อรองรับการขยายตัวของประชากรโลก ตลอดจนความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่จะเข้ามาทดแทนการใช้ชีวิตแบบเดิม ๆ เป็นปัจจัยสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจสายไฟฟ้าและเคเบิลในอนาคต ปัจจุบันบริษัทฯมี Backlog อยู่ประมาณ 8,800 ล้านบาท แบ่งเป็นในประเทศ 80% และต่างประเทศ 20%

ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯในปี พ.ศ. 2565 บริษัทฯมุ่งมั่นทุ่มเทนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีสายไฟระดับโลก เข้ามารองรับการใช้พลังงานของประเทศไทย สร้างการเติบโตให้กับอุตสาหกรรม โดยตั้งเป้ารายได้เติบโตไว้ไม่น้อยกว่า 30% เพิ่มส่วนแบ่งการตลาดเป็น 30% และขยายตลาดส่งออกเพิ่มขึ้นเป็น 50 ประเทศ จากปัจจุบันที่ส่งออกไปยัง 42 ประเทศ เพิ่มสัดส่วนรายได้ส่งออกเป็น 25-30% และเดินตาม Road Map ในเป้าหมายต่อไป เพื่อสร้างยอดขายแตะ 20,000 ล้านบาท ภายในปี พ.ศ.2569


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save