เดลล์ เปิดตัว Alienware มอนิเตอร์ใหม่พร้อมกัน 2 รุ่น Alienware 25 Gaming Monitor (AW2523HF) และ Alienware 27 Gaming Monitor (AW2723DF) โดยเกมมิ่ง มอนิเตอร์ทั้งคู่คือหนึ่งในมอนิเตอร์ที่มีความเร็วสูงสุดที่มีอยู่ในตลาด อีกทั้งยังมาพร้อมกับระบบภาพ (visuals) คุณภาพสูง ประสิทธิภาพการเล่นเกมที่ลื่นไหลอย่างยอดเยี่ยม และการออกแบบทางอุตสาหกรรมที่ผสานความสวยงามกับการใช้งานได้จริงเข้าด้วยกันเพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด โดยเกมมิ่งมอนิเตอร์ทั้งสองคือกลุ่มแรกที่มาพร้อมกับที่แขวนชุดหูฟัง (headset) ที่สามารถยืดหดได้เพื่อให้สามารถดึงมาใช้งานและเก็บเข้าที่ได้โดยสะดวก ช่วยให้พื้นที่การเล่นเกมป็นระเบียบเรียบร้อย
Alienware 25 Gaming Monitor (AW2523HF)
ด้วยการออกแบบจากฟีดแบคที่ได้รับจากมือโปรทั้งหลายในการเล่นเกม เกมมิ่ง มอนิเตอร์นี้ได้รับการปรับให้เหมาะสมกับ Esports เพื่อสำหรับการแข่งขันเกมมิ่งโดยเฉพาะ ด้วยการออกแบบของ Legend 2.0 ที่ปรับปรุงใหม่ มาพร้อมจุดเด่นฐานตั้งแบบหกเหลี่ยมเพื่อการใช้พื้นที่ของเดสก์ท็อปที่มีขนาดเล็กลง เพื่อให้ผู้แข่งขันมีความยืดหยุ่นสูงสุดในแง่ของการจัดวางคีย์บอร์ดและมีพื้นที่ว่างสูงสุดสำหรับการเคลื่อนไหวของเมาส์สำหรับการจัดวางอุปกรณ์การแข่ง Esports ที่สมบูรณ์ที่สุด นอกจากนี้ เกมเมอร์ยังสามารถวางชุดหูฟังไว้บนที่แขวนชุดหูฟังแบบพับเก็บได้ในตัวแบบใหม่เพื่อให้สภาพแวดล้อมของพื้นที่ในการเล่นเกมเป็นไปโดยเรียบร้อยไม่เกะกะ
จอมอนิเตอร์มาพร้อมอัตราการรีเฟรชตัวแปรที่ 360Hz และเวลาตอบสนอง GtG ที่ 0.5ms* ซึ่งหมายถึงการเคลื่อนไหวที่ราบรื่นผู้เล่นจะได้สัมผัสประสบการณ์การเล่นเกมที่ลื่นไหลไร้การสะดุด พร้อมภาพกราฟิกที่คมชัดแม้ในระหว่างซีเควนซ์ที่อัดแน่นไปด้วยการต่อสู้ที่ดุเดือด ด้วยการสนับสนุนจากเทคโนโลยี AMD FreeSync™ Premium และการรับรองของ VESA® AdaptiveSync
Alienware 27 Gaming Monitor (AW2723DF)
ส่วน Alienware 27 Gaming Monitor (AW2723DF) ผสานประสิทธิภาพระดับพรีเมียมเข้ากับการออกแบบเพื่อการใช้งานที่สะดวกเรียบง่ายยิ่งขึ้น ด้วยอัตราโอเวอร์คล็อกที่ 280Hz พร้อมอัตรารีเฟรชเรทที่ 240Hz และเวลาตอบสนอง GtG ที่ 1ms สามารถรับประกันได้ว่าเกมเมอร์จะสนุกได้อย่างเต็มที่ในเวลาเล่นเกมโดยไม่เกิดการสะดุด (Lag-free) ตัวจอ QHD ดิสเพลย์ Fast IPS 27” รองรับเทคโนโลยี AMD FreeSyncTM Premium Pro และยังรวมถึง NVIDIA® G-Sync® และ VESA® AdaptiveSync ที่ได้รับการรับรองเพื่อการแสดงผลกราฟิกที่คมชัด มาพร้อมหน้าจอแบบ InfinityEdge ที่มากับเทคโนโลยี IPS Nano Color เพื่อให้คุณสัมผัสประสบการณ์สีสันในแบบไดนามิกที่ครอบคลุมมาตรฐานสีของการผลิตภาพยนตร์ดิจิทัล หรือ DCI-P3 ถึง 95% และการรับรองมาตรฐาน VESA DisplayHDR™ 600 เพื่อประสบการณ์การเล่นเกมที่ดื่มด่ำอย่างแท้จริง
สำหรับเกมเมอร์ที่สร้างสรรค์เนื้อหาด้วยตัวเอง Creator Mode ที่ตั้งไว้ล่วงหน้าจะมีให้เลือกระหว่างมาตรฐานสี DCI-P3 (native) และสีแบบ sRGB หรือการปรับแต่งระดับค่าของแกมมา
ตัวมอนิเตอร์มาพร้อมการออกแบบของ Legend 2.0 ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ในสีเงิน Lunar Light พร้อมไลท์ติ้ง AlienFX รวมถึงระบบการระบายอากาศแบบ 360 องศา การจัดการสายเคเบิลที่ปรับให้ดียิ่งขึ้น และขาตั้งที่สามารถปรับแต่งได้อย่างเต็มที่ พร้อมที่แขวนชุดหูฟังในตัวเพื่อการใช้งานบนมอนิเตอร์รุ่นนี้ด้วย
มอนิเตอร์ทั้ง 2 รุ่น จะวางจำหน่ายในประเทศไทยในช่วงไตรมาส 3
* 0.5ms (GtG min), 1ms (GtG most observed) in Extreme mode. Measured with FreeSync off.