บริษัท อาร์เอ็กซ์ เทรดเด็กซ์ จำกัด จับมือ สถาบันยานยนต์ จัดงาน “Automotive Summit 2022” งานสัมมนายานยนต์แห่งอนาคต ภายใต้แนวคิด “ความเป็นกลางทางคาร์บอน : จุดเปลี่ยนของยานยนต์แห่งอนาคต” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงาน Manufacturing Expo 2022 งานมหกรรมเครื่องจักรและเทคโนโลยีเพื่ออุตสาหกรรมการผลิตและอุตสาหกรรมสนับสนุน ที่ครบครันที่สุดแห่งปี ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-25 มิถุนายน พ.ศ.2565 ณ ฮอลล์ 101 – 104 ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทค บางนา
วราภรณ์ ธรรมจรีย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์เอ็กซ์ เทรดเด็กซ์ จำกัด (RX Tradex เดิมชื่อ รี้ด เทรดเด็กซ์) ผู้นำด้านการจัดงานแสดงสินค้าแห่งอาเซียน ที่สร้างสรรค์งานแสดงสินค้าให้แก่หลากหลายอุตสาหกรรม กล่าวว่า ทางอาร์เอ็กซ์ เทรดเด็กซ์ ร่วมกับสถาบันยานยนต์ จัดสุดยอดงานสัมมนาด้านยานยนต์ Automotive Summit 2022 ภายใต้แนวคิดความเป็นกลางทางคาร์บอน : จุดเปลี่ยนของยานยนต์แห่งอนาคต (Carbon Neutrality: A Turning Point of the Future Mobility) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงาน Manufacturing Expo 2022 งานมหกรรมเครื่องจักรและเทคโนโลยีเพื่ออุตสาหกรรมการผลิตและอุตสาหกรรมสนับสนุน ที่ครบครันที่สุดแห่งปี โดยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-25 มิถุนายน พ.ศ.2565 ณ ฮอลล์ 101 – 104 ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทค บางนา
ภายในงานจะได้พบกับผู้ประกอบการชั้นนำและผู้เชี่ยวชาญจากประเทศไทยและต่างประเทศมาร่วมนำเสนอผลงานยานยนต์ทั้งด้านเทรนด์เทคโนโลยี งานวิจัย และความเป็นไปทางธุรกิจมาเสริมองค์ความรู้ให้กับผู้เข้าร่วมงานตลอดมา
สำหรับการจัดงานที่ผ่านมามีผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมฟังสัมมนาจำนวนมาก ซึ่งเป็นความร่วมมือที่จะสร้างแรงขับเคลื่อนให้วงการอุตสาหกรรมยานยนต์ตลอดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 -ปี พ.ศ. 2562 และการจัดงานได้หยุดในช่วง COVID-19 ในปี พ.ศ.2563-2564 และในปี พ.ศ.2565 เมื่อสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลายลง จึงกลับมาจัดงานขึ้นอีกครั้ง เพื่อเสริมพลังให้ผู้ประกอบการในวงการและผู้ที่สนใจได้ทันเทรนด์เทคโนโลยีของอุตสาหกรรม ได้แก่ ความเป็นกลางทางคาร์บอน และยานยนต์แห่งอนาคต หรือ Carbon Neutrality : A Turning Point of the Future Mobility
ในส่วนของการจัดงานยังคงมาตรการทางด้านสาธารณสุขดูแล COVID-19 ตามมาตรการของภาครัฐอย่างเคร่งคัดตลอดการจัดงาน มีการคัดกรองอุณหภูมิผู้เข้าร่วมงาน กำหนดให้ผู้เข้าร่วมงานต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ในงาน การบริหารจัดการพื้นที่ เว้นระยะห่าง ตลอดจนการจัดเตรียมเจลแอลกอฮอล์ไว้บริการตามจุดต่างๆ ภายในพื้นที่จัดงาน มีรังสียูวีฆ่าเชื้อในระบบปรับอากาศ
พิสิฐ รังสฤษฎ์วุฒิกุล ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ กล่าวถึง ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยในปี พ.ศ.2565 นี้ว่า นับเป็นปีที่อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยเริ่มฟื้นตัวหลังจากสถานการณ์ COVID-19 ที่ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยโดยรวมชะลอตัว ซึ่งกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย คาดการณ์ว่า จะสามารถผลิตยานยนต์ได้ประมาณ1,800,000 ล้านคัน แบ่งเป็นการจำหน่ายในประเทศ 800,000 คัน และส่งออก 1,000,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปี พ.ศ.2564 ประมาณ 7% นอกจากนี้ สถาบันยานยนต์ยังประเมินว่า ปริมาณการจำหน่ายยานยนต์ไฟฟ้าจะมีประมาณ 5,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปี พ.ศ.2564 ที่จำหน่ายได้ประมาณ 2,000 คัน จากมาตรการส่งเสริมของภาครัฐ ทำให้ผู้บริโภคให้การยอมรับมากขึ้น ซึ่งจากการที่ประเทศไทยได้กำหนดให้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อให้ประเทศบรรลุเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกนั้น ทำให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (EV) เพื่อการตอบสนองเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม และยังเป็นการยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศให้เปลี่ยนผ่านไปสู่อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ โดยตั้งเป้าให้มีการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าให้ได้ 30% ของการผลิตยานยนต์ทั้งหมด รวมทั้งตั้งเป้าให้มีการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า 15,000,000 คันหรือ 1 ใน 3 ของยานยนต์ทั้งหมดภายในปี พ.ศ.2578
สำหรับช่วง 4 เดือนแรกของปี พ.ศ.2565 ที่ผ่านมา ประเทศไทยสามารถผลิตรถยนต์ได้ 597,864 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี พ.ศ.2564 ประมาณ 4.8% จากตลาดยานยนต์ทั้งในประเทศและต่างประเทศมีการฟื้นตัว มีการเปิดตัวของยานยนต์รุ่นใหม่ โดยเฉพาะยานยนต์ EV ที่ได้รับการตอบรับด้วยดีจากผู้บริโภคที่เริ่มคุ้นเคยกับเทคโนโลยี การตั้งราคาที่เข้าถึงได้มากขึ้น มาตรการสนับสนุนจากภาครัฐ และภาวะการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของราคาน้ำมัน
ส่วนตลาดส่งออกนั้น ยังอยู่ในช่วงการฟื้นตัวหลังจากที่ต้องเผชิญกับ COVID-19 คาดว่าหลังจากนี้เมื่อเริ่มผ่อนคลายมาตรการต่างๆที่คุมเข้มในช่วง COVID-19 ผู้คนกลับมาใช้ชีวิตปกติได้ มีการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามามากขึ้น จะช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศไทยในภาพรวมเริ่มฟื้นตัว แต่ยังคงติดปัญหาการขาดแคลนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บางชนิด รวมถึงการขาดแคลนชิ้นส่วนบางรายการ ทำให้ผู้ผลิตหลายรายต้องชะลอการส่งมอบรถยนต์ออกไปไม่น้อยกว่า 3 เดือน ซึ่งคาดการณ์ว่า ปัญหานี้จะเริ่มคลี่คลายลงและการผลิตยานยนต์กลับเข้าสู่ภาวะปกติประมาณปี พ.ศ.2566
พิสิฐ กล่าวว่า สำหรับการจัดงาน Automotive Summit 2022 มั่นใจว่าจะช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจไทยกลับมาคึกคักอีกครั้งโดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมสำคัญที่สร้างรายได้เข้าประเทศ โดยการจัดงานปีนี้นอกจากมีการนำผลิตภัณฑ์ยานยนต์ของแต่ละบริษัทจากผู้ผลิตมนประเทศและต่างประเทศมาร่วมจัดแสดงแล้ว ยังมีไฮไลท์หัวข้อสัมมนาที่น่าสนใจที่ผู้เข้าร่วมจะได้รับความรู้มากมาย เช่น นโยบาย และวิสัยทัศน์ด้านยานยนต์เพื่อมุ่งสู่ยานยนต์คาร์บอนต่ำ แนวทางการดำเนินธุรกิจและการพัฒนาเทคโนโลยีของบริษัทชั้นนำต่างๆ การปรับกระบวนทัศน์ใหม่ของผู้ผลิตยานยนต์ ตั้งแต่กระบวนการออกแบบผลิตภัณฑ์ การผลิต ไปจนถึงการจัดการซาก เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของความเป็นกลางทางคาร์บอน และที่ขาดไม่ได้คือเรื่องมาตรฐานและการทดสอบยานยนต์เชื่อมต่อและขับขี่อัตโนมัติ (CAV) และยานยนต์ไฟฟ้า (EV) เป็นต้น คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานในแต่ละวันไม่น้อยกว่า 1,000 คน