“ออมสิน” คว้ารางวัลคุณภาพแห่งชาติ ประจำปี 2563 พร้อม 7 องค์กรรับรางวัล TQC


ภานุวัฒน์ ตริยางกูรศรี รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ประธานในพิธี

กรุงเทพฯ – 5 กุมภาพันธ์ 2564 : สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ สถาบันเครือข่ายของกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะสำนักงานรางวัลคุณภาพแห่งชาติ จัดงานแถลงข่าวผลรางวัลคุณภาพแห่งชาติ ประจำปี 2563 เพื่อประกาศรายชื่อองค์กรไทยจากภาคส่วนต่าง ๆ ที่ประสบความสำเร็จจากความพยายามในการมุ่งสู่ความเป็นเลิศด้านการบริหารจัดการ จนสามารถคว้ารางวัลคุณภาพแห่งชาติ (Thailand Quality Award : TQA) รางวัลการบริหารสู่ความเป็นเลิศที่มีความโดดเด่นด้านลูกค้า บุคลากร การปฏิบัติการ หรือนวัตกรรม (Thailand Quality Class Plus: TQC Plus) และรางวัลการบริหารสู่ความเป็นเลิศ (Thailand Quality Class: TQC) ประจำปี 2563 โดยได้รับเกียรติจาก ภานุวัฒน์ ตริยางกูรศรี รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานในพิธี ณ ห้องบอลรูม 2 ชั้น 4 โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ

ปิยะบุตร ชลวิจารณ์ ประธานคณะกรรมการรางวัลคุณภาพแห่งชาติ กล่าวว่า ในปี พ.ศ.2563 นี้มีองค์กรที่ได้รับรางวัลทั้งสิ้น 8 องค์กร เริ่มจาก รางวัลคุณภาพแห่งชาติ (Thailand Quality Award : TQA) จำนวน 1 องค์กร ได้แก่ ธนาคารออมสิน ซึ่งในปีพ.ศ.2562 ธนาคารออมสิน เคยได้รับรางวัล TQC Plus: Operation รางวัล TQC Plus: Customer ในปีพ.ศ. 2561 และรางวัล TQC ในปีพ.ศ. 2560 ตามลำดับ รางวัลการบริหารสู่ความเป็นเลิศที่มีความโดดเด่นด้านนวัตกรรม (Thailand Quality Class Plus: Innovation) จำนวน 1 องค์กร ได้แก่ กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รางวัลการบริหารสู่ความเป็นเลิศที่มีความโดดเด่นด้านการปฏิบัติการ (Thailand Quality Class Plus: Operation) จำนวน 1 องค์กร ได้แก่ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล

ส่วนรางวัลการบริหารสู่ความเป็นเลิศ (Thailand Quality Class) มีองค์กรที่ได้รับรางวัลจำนวน 5 องค์กร ได้แก่ 1.กลุ่มธุรกิจการตลาด บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) 2.คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล 3.ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 4. บริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด และ 5.มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

นอกจากนี้ยังกล่าวถึงผลลัพธ์และกลยุทธ์ในการสนับสนุนให้รางวัลคุณภาพแห่งชาติ เป็นเครื่องมือสำคัญในการยกระดับองค์กรไทยให้พร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงในอนาคต และยืนหยัดท่ามกลางความท้าทายจากวิกฤตที่เกิดขึ้นอย่างรอบด้าน รางวัลคุณภาพแห่งชาติจึงเป็นเครื่องมือสำหรับองค์กรที่มีความมุ่งมั่น และไม่หยุดพัฒนาตนเอง ไม่ว่าสถานการณ์ภายนอกจะเป็นเช่นไร

ผศ.ดร.อธิศานต์ วายุภาพ ผู้อำนวยการสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ ในฐานะกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการรางวัลคุณภาพแห่งชาติ กล่าวถึงบทบาทของสำนักงานรางวัลคุณภาพแห่งชาติ ว่า ตลอดระยะเวลา 19 ปีที่ผ่านมา เกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติ (Thailand Quality Award : TQA) ได้ถูกนำไปใช้ในภาคส่วนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นภาคบริการ การศึกษา สาธารณสุข และภาคราชการ และถูกนำไปใช้เป็นรากฐานและต้นแบบในการพัฒนาเกณฑ์รางวัลอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น เกณฑ์คุณภาพการศึกษาเพื่อการดำเนินการที่เป็นเลิศ รางวัลสุดยอด SME แห่งชาติ (SME National Awards)

สำหรับองค์กรที่ได้นำเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติไปปรับใช้ จนได้รับรางวัลคุณภาพแห่งชาติ และรางวัลการบริหารสู่ความเป็นเลิศ มีอัตราการเติบโตของด้านนวัตกรรมที่เกิดขึ้นภายในองค์กรอย่างต่อเนื่อง และจำนวนการยื่นขอรับสิทธิบัตรขององค์กรเพิ่มขึ้น สะท้อนให้เห็นว่าองค์กรที่ได้รับรางวัลมีการให้ความสำคัญ มีการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันขององค์กร ผ่านการผลักดันให้เกิดนวัตกรรมในองค์กรมากขึ้น หากมีองค์กรที่บริหารจัดการเพื่อให้เกิดนวัตกรรมมากยิ่งขึ้นเท่าใด ย่อมส่งผลต่อขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศได้มากขึ้นเช่นกัน

โดยในปีพ.ศ.2563 ประเทศไทยประสบปัญหาเชื้อไวรัส COVID – 19 มีองค์กรสมัครทั้งหมด 26 ราย แบ่งเป็นองค์กรภาคการผลิต 2 ราย องค์กรบริการ 6 ราย องค์กรสาธารณสุข 1 ราย องค์กรการศึกษา 14 ราย และองค์กรอื่น ๆ 3 ราย ทั้งนี้คาดว่าในปีพ.ศ.2564 จะมีองค์กรสนใจสมัครเข้ารับรางวัลใกล้เคียงกับปีพ.ศ.2563 อย่างไรก็ตามต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ COVID – 19 ด้วยว่าจะมีความรุนแรงและกระทบต่อภาคธุรกิจมากน้อยเพียงใด

ในปีพ.ศ. 2564 นี้ สำนักงานรางวัลคุณภาพแห่งชาติ จะสนับสนุนให้องค์กรที่ได้รับรางวัล TQA ทำคะแนน 800 คะแนนขึ้นไป เพื่อความเป็นเลิศระดับ World Best Class ของโลก เฉกเช่นเดียวกับองค์กรต่าง ๆ ในประเทศสิงคโปร์ทั้ง SME ภาครัฐ และภาคอุคตสาหกรรม ซึ่งต่างได้รับรางวัลนี้มาแล้ว เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันในระดับสากล

ออมสิน นับเป็นองค์กรที่ 7 ในรอบ 20 ปี ที่คว้ารางวัล TQA

วิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ซึ่งเป็นองค์กรเพียงองค์กรเดียวที่ได้รับรางวัลคุณภาพประจำปี 2563 (TQA) กล่าวว่า ธนาคารออมสินเริ่มเข้ารับการตรวจประเมินในปีพ.ศ.2558 โดยปีนี้ได้รับรางวัล TQA นับเป็นองค์กรที่ 7 ในรอบ 20 ปี ที่ได้รับรางวัลนี้ ทั้งนี้ในปีพ.ศ.2562 ธนาคารออมสิน เคยได้รับรางวัล TQC Plus: Operation รางวัล TQC Plus: Customer ในปีพ.ศ. 2561 และรางวัล TQC ในปีพ.ศ. 2560 ตามลำดับ

ปัจจุบันออมสินมีสินทรัพย์ทั้งสิ้น 2.9 ล้านล้านบาท ในปีพ.ศ.2563 ที่ผ่านมา ธนาคารออมสินได้ปรับองค์กรให้เป็น Social Bank มีการปรับเปลี่ยนนวัตกรรมขนานใหญ่ ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของ TQA และในปีเดียวกันนี้เกิดสถานการณ์ COVID-19 ทำให้เกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านรายได้มากขึ้น ธนาคารออมสินตัองการลดความเหลื่อมล้ำรายได้ จึงได้จัดทำโครงการทั้งหมด 17 โครงการ พร้อมสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล ซึ่งสามารถช่วยประชาชนจำนวน 5 ล้านคนทั้งทางตรงและทางอ้อม คิดเป็นเงิน 1.5 แสนล้านบาท

ล่าสุดในช่วงต้นปีพศ.2564 นี้ ธนาคารออมสินได้พัฒนาระบบดิจิทัลเฟส 1 เป็นผลสำเร็จเมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทำให้ธนาคารออมสินสามารถอนุมัติสินเชื่อได้ 450,000 รายภายใน 10 วัน เทียบเท่าฐานลูกค้าของธนาคารขนาดกลาง และคาดว่าระบบดิจิทัลเฟส 2 น่าจะสำเร็จในปลายปีพ.ศ.2564 นี้

คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล คว้ารางวัล TQC Plus: Operation นำระบบ 5G เข้ามาใช้เป็นโรงพยาบาลแรกในไทย

ศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดี คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ซึ่งได้รับรางวัลการบริหารสู่ความเป็นเลิศที่มีความโดดเด่นด้านการปฏิบัติการ (Thailand Quality Class Plus: Operation) กล่าวว่า คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เป็นโรงพยาบาลที่รักษาผู้ป่วยมากที่สุดในประเทศไทย ซึ่งมีจำนวนมากกว่า 3 ล้านคน ผลิตนักศึกษาแพทย์ปีละ 300 คน และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ซึ่งมีจำนวนมากที่สุดในประเทศ รวมทั้งมีผลงานวิจัยทางด้านการแพทย์มากที่สุดในไทย

ในปีพ.ศ.2560 ที่ผ่านมา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้รับรางวัล TQC มาในปีพ.ศ.2563 ได้รับรางวัล TQC Plus: Operation แสดงถึงความมุ่งมั่นของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลในการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ประชาชนไทย ทั้งนี้คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล จะนำข้อมูลใช้ในการพัฒนาคุณภาพ เพื่อให้โรงพยาบาลศิริราชเปลี่ยนโลก โดยแชร์ทรัพยากรร่วมกันใน 3 พันธกิจหลักๆ คือ โรงพยาบาล ผลิตนักศึกษาแพทย์และงานวิจัย พร้อมกันนี้โรงพยาบาลศิริราชได้นำเทคโนโลยี 5 G เข้ามาใช้ในโรงพยาบาลเป็นแห่งแรกในไทย เพื่อให้บริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

” ในอนาคตโรงพยาบาลศิริราชจะมี Partner ในจีน โดยโรงพยาบาลดังกล่าวจะเป็น Smart Hospital และ Smart Medical School” ศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์ประสิทธิ์ กล่าว


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save