- มอบหน้ากาก N99 จำนวน 3,000 ชิ้น และชุด PAPR จำนวน 750 ชุดให้องค์การเภสัชกรรม กระจายให้โรงพยาบาลทั่วประเทศ
กรุงเทพฯ: เมื่อเร็วๆนี้ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย ศ.ดร.นพ. สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงฯ พร้อมด้วย ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง รองผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และ รศ.นพ.อนันต์ มโนมัยพิบูลย์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ส่งมอบ “หน้ากาก N99” จำนวน 3,000 ชิ้นและ “ชุด PAPR” จำนวน 750 ชุดให้ องค์การเภสัชกรรม เพื่อส่งต่อบุคลากรทางการแพทย์ในหน่วยงานและโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ และมอบ “หน้ากาก N99” จำนวน 1,000 ชุดพร้อม “ชุด PAPR” จำนวน 250 ชุดให้กรุงเทพมหานคร ส่งต่อให้บุคลากรทางการแพทย์รับมือสถานการณ์ COVID-19 ซึ่งกำลังระบาดอยู่ในขณะนี้
มอบหน้ากาก N99 จำนวน 1,000 ชิ้น และชุด PAPR จำนวน 250 ชุดให้กรุงเทพมหานคร
ศ. ดร. นพ. สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า อว. มีบทบาทสำคัญในการแก้ไขปัญหาวิกฤตการณ์ของประเทศจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยอว. พร้อมให้การสนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรมเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหม่ ทั้งในส่วนของอุปกรณ์และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ รวมถึงบุคลากร เจ้าหน้าที่แพทย์และพยาบาลให้มีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่รองรับผู้ป่วยอย่างเต็มกำลังความสามารถ
โดยอว.ร่วมกับ วช.มอบหน้ากาก N99 ให้แก่ องค์การเภสัชกรรม จำนวน 3,000 ชิ้น และกรุงเทพมหานคร 1,000 ชิ้น และมอบชุด PAPR ให้แก่องค์การเภสัชกรรม จำนวน 750 ชุด และกรุงเทพมหานคร 250 ชุด เพื่อให้องค์การเภสัชกรรมกระจายไปยังหน่วยงานและโรงพยาบาลทั่วประเทศ
สำหรับหน้ากาก N99 พัฒนาในไทย มีงานวิจัยอยู่เบื้องหลังมากมาย มีนวัตกรรมทางการแพทย์จำนวนมากและตีพิมพ์ในวารสารทางวิชาการ ผ่านการประเมินว่ามีประสิทธิภาพใช้งานได้ดี ส่วนหน้ากากป้องกันเชื้อโรคแบบคลุมศีรษะชนิดมีพัดลมพร้อมชุดกรองอากาศ (PAPR) มีพัดลมเป่าลมให้ไหลไปทางเดียว ทำให้บุคลากรทางการแพทย์มีความปลอดภัยในการใช้งาน
ศ. ดร. นพ. สิริฤกษ์ กล่าวว่าหน้ากาก N99 มีฟิลเตอร์ สามารถใช้งานได้ 6 เดือน หากคิดระยะเวลา 100 วันของหน้ากาก N99 จำนวน 4,000 ชิ้น เท่ากับว่ามีหน้ากาก N95 จำนวน 4 แสนชิ้น สามารถใช้ได้ 4-8 แสนวัน ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการ ทั้งนี้หากมีความจำเป็นและต้องการเพิ่ม สามารถผลิตเพิ่มได้
“ภายใน 1 สัปดาห์มีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น แม้จะรู้ว่ามีการติดเชื้อ แต่ความตระหนกน้อยลง เนื่องจากไทยมีความพร้อมจากก่อนหน้านี้มาก ขณะนี้มีอุปกรณ์และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ที่เพียงพอ เราต้องรับมือกับสถานการณ์ COVID-19 อย่างรวดเร็ว โดยไม่ประมาท ไม่ตระหนกและไม่แตกตื่น เราจะต้องมีความเข้มแข็งและร่วมกันฝ่าวิกฤตต่อไป” ปลัดกระทรวง อว. กล่าว
ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง รองผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้มอบหมายให้สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) สนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรมด้านเวชภัณฑ์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ วช.จึงได้สนับสนุนทุนวิจัยและนวัตกรรมให้แก่มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช เพื่อแก้ไขปัญหาและลดผลกระทบจากการขาดแคลนอุปกรณ์ป้องกันดังกล่าว
สำหรับผลสำเร็จของงานวิจัยหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ ชนิด N 99 ที่ผลิตจากซิลิโคน จำนวน 4,000 ชิ้น และหน้ากากป้องกันเชื้อโรคแบบคลุมศีรษะชนิดมีพัดลมพร้อมชุดกรองอากาศ (PAPR) จำนวน 1,000 ชุด จากวิทยาลัยพัฒนาชุมชนเมือง มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ร่วมกับทีมวิจัยจากคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล พร้อมส่งมอบให้กับองค์การเภสัชกรรมและกรุงเทพมหานครเพื่อส่งต่อให้บุคลากรทางการแพทย์ใช้รับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ระลอกใหม่ที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ ซึ่งปัจจุบันมียอดผู้ติดเชื้อ COVID-19 ประมาณ 78 ล้านคน (25 ธันวาคม 2563) และคาดว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 น่าจะใช้เวลา 2 ปี” ดร.วิภารัตน์ กล่าว