ชลบุรี: “อมตะ” ร่วมกับพันธมิตร”ฟูจิตะ-JOIN” เปิดตัวโรงแรมนิกโก้ อมตะซิตี้ ชลบุรี รอต้อนรับนักธุรกิจทั้งไทย-เทศโดยเฉพาะนักธุรกิจที่มาทำงานในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จ.ชลบุรี และพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ด้วยขนาด 220 ห้อง ความสูง 13 ชั้น ภายใต้แนวคิด” บ้านของคนไกลบ้าน” ชูเป็นส่วนหนึ่งของ Smart Community ที่เอื้อให้ชีวิตสะดวกสบาย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
วิกรม กรมดิษฐ์ ประธานบริษัทอมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA กล่าวว่า อมตะได้เปิดตัวโรงแรมนิกโก้ อมตะซิตี้ ชลบุรี อย่างเป็นทางการ โดยเป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัทอมตะสัดส่วน 51% และบริษัท ฟูจิตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม Daiwa House Group และบริษัท เจแปน โอเวอร์ซีส์ อินฟาสตรัคเจอร์ อินเวสเม้นท์ คอร์ปอเรชั่น ฟอร์ ทรานสปอต แอนด์ เออเบิร์น ดีเวลลอปเม้นท์ (JOIN) สัดส่วน 49% โดยได้รับเกียรติจากคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมในพิธีแกรนด์โอเพนนิ่งเปิดตัวโรงแรมอย่างเป็นทางการ ณ นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จ.ชลบุรี
โรงแรมดังกล่าวนับเป็นโรงแรมนิกโก้แห่งที่ 2 ในประเทศไทย ภายใต้การบริหารของ Okura Nikko Hotel Management ซึ่งเป็นเครือโรงแรมระดับสากลของญี่ปุ่น และยังเป็นโรงแรมแห่งแรกในประเทศไทยที่ร่วมลงทุนโดยรัฐบาลญี่ปุ่นผ่าน JOIN
“กลุ่มอมตะได้กำหนดแผนการดำเนินงานที่มุ่งสู่การเป็นผู้นำเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ระดับโลกจึงร่วมมือกับภาครัฐบาลของญี่ปุ่นเพื่อพัฒนาอมตะ สมาร์ทซิตี้ให้เป็นเมืองอุตสาหกรรมแห่งอนาคตซึ่งแนวทางพัฒนาจะมีอยู่ด้วยกัน 8 ด้านและหนึ่งในแนวทางพัฒนา คือSmart Community ที่เอื้อให้ชีวิตสะดวกสบาย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยโรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรีจึงเป็นส่วนหนึ่งที่จะเข้ามาตอบโจทย์ดังกล่าว ”วิกรม กล่าว
สำหรับโรงแรมนิกโก้ อมตะซิตี้ ชลบุรี ได้รับการพัฒนาภายใต้แนวคิด “บ้านของคนไกลบ้าน” โดยอาศัยความได้เปรียบของนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงาน 800 โรงงาน เป็นโรงงานญี่ปุ่นกว่า 450 โรงงาน บริษัทฯ ได้ใช้เวลาศึกษาพฤติกรรมของคนทำงานในพื้นที่ทั้งคนไทยและคนต่างชาติในนิคมอมตะ ซึ่งพบว่ามีชาวญี่ปุ่นและครอบครัว ประมาณ 4,000 คน ที่ทำงานและเดินทางไป-กลับเกี่ยวข้องกับพื้นที่ของนิคมอมตะ ทำให้เกิดความเข้าใจวิถีชีวิตของคนทำงานอย่างถ่องแท้ ก่อนที่จะมาเริ่มออกแบบและพัฒนาโรงแรม
โดยโรงแรมนิกโก้ อมตะซิตี้ ชลบุรีเป็นโรงแรมระดับ 4 ดาวมี 12 ชั้น มีห้องพัก 220 ห้อง ขนาดเริ่มต้นที่ 32 ตร.ม. และ ชั้น 13 เป็นชั้นดาดฟ้าที่มี “โอฟุโระ”หรือโรงอาบน้ำแบบญี่ปุ่น สกายบาร์และสระว่ายน้ำไร้ขอบที่เห็นวิวของสนามกอล์ฟอมตะสปริง คันทรีคลับ และชายหาดบางแสน
นอกจากนี้โรงแรมยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับลูกค้าธุรกิจ เช่น ห้องบอลรูมและห้องประชุมเพื่อรองรับกิจกรรมขององค์กร ตลอดจน Fitness และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ เพื่อรองรับการจัดงานขององค์กร
ส่วนห้องอาหาร “Shikisai” ของทางโรงแรมนิกโก้ อมตะซิตี้ชลบุรี ถูกออกแบบภายใต้แนวคิดโรงอาหารญี่ปุ่น ซึ่งจะเสิร์ฟอาหารญี่ปุ่นทุกประเภท โดยเชฟจากที่สั่งตรงจากญี่ปุ่น และมีความตั้งใจที่จะเผยแพร่วัฒนธรรมญี่ปุ่นต้นแบบผ่านทางอาหาร
โดยโรงแรมพร้อมที่จะต้อนรับลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะลูกค้าองค์กรและนักธุรกิจที่เดินทางมาทำธุรกิจที่นิคมอมตะซิตี้และในพื้นที่เขตพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC
Miss Lena Ng, Chief Investment Officer บริษัทอมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA กล่าวว่า โรงแรมนิกโก้ อมตะซิตี้ ชลบุรีใช้เงินลงทุน 2,000 ล้านบาท ใช้เวลาก่อสร้างกว่า 2 ปี เหมาะสำหรับจัดงาน Event ทั้งงานแต่งและงานสัมมนา โดยสัดส่วนผู้ใช้บริการเป็นกลุ่มนักธุรกิจญี่ปุ่นและต่างชาติ 60% ที่เหลือ 40% เป็นนักธุรกิจไทย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ รถพลังงานไฟฟ้า (EV)
นอกจากนี้ โรงแรมได้ร่วมมือกับอมตะ สปริง คันทรี คลับ เพื่อส่งเสริมให้ผู้มาพักผ่อน ได้ใช้บริการของทางสนามกอล์ฟ ซึ่งในวันที่ 27 ตุลาคมจะมีการแข่งขัน Asia Golf Championship Tournament ทำให้ห้องพักในช่วงเวลาถูกจองเต็มเกือบ 100%
การที่ญี่ปุ่นเปิดประเทศ ถือเป็นโอกาสให้ยอดผู้เข้าพักที่โรงแรม 50% เนื่องจากญี่ปุ่นเดินทางมาเป็นหมู่คณะ 5-10 คน โดยอมตะตั้งใจที่จะพัฒนาโรงแรมดังกล่าวให้เป็น Smart Community และเป็นโยโกฮามาแห่งที่ 2
ในปีหน้า ทางโรงแรมคาดว่าจะมีลูกค้าจากอุตสาหกรรม BCG และวางแผนจะทำ Incentive ให้ต่างชาติ เพื่อจูงใจให้มาใช้บริการมากยิ่งขึ้น
มร.ทัตสึฮิโกะ ทาเคซาดะ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ JOIN กล่าวว่าโรงแรมแห่งนี้เป็นโครงการแรกของ JOIN ในประเทศไทย โดย JOIN เป็นกองทุนของประเทศญี่ปุ่น ที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชนของญี่ปุ่น ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้บริษัทญี่ปุ่น ไปลงทุนในต่างประเทศด้านการพัฒนาเมือง และโครงสร้างพื้นฐาน