สอท.เผยเดือนพ.ย. ยอดผลิตรถยนต์ 190,155 คัน เพิ่มขึ้น15% ขณะที่ยอดขายและส่งออกลดลง


กรุงเทพฯ – 20 ธันวาคม 2565 : สุรพงษ์  ไพสิฐพัฒนพงษ์  รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประเทศ ในเดือนพฤศจิกายน 2565 ดังต่อไปนี้

สุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)
สุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)

การผลิต

จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนพฤศจิกายน 2565 มีทั้งสิ้น 190,155 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 15 เพิ่มขึ้นเพราะได้รับชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์มากขึ้นจึงผลิตรถยนต์เพื่อส่งออกเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 19.12 และผลิตเพื่อขายในประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.06 และเพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 2565 ร้อยละ 11.39

จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2565 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,724,909 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 20.95

รถยนต์นั่ง เดือนพฤศจิกายน 2565 ผลิตได้ 69,870 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 24.63

ยอดผลิตของรถยนต์นั่ง ตั้งแต่เดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2565 มีจำนวน 546,417  คัน มีสัดส่วนร้อยละ 31.68 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 0.58

รถยนต์โดยสารขนาดต่ำกว่า 10 ตัน และมากกว่า 10 ตัน ขึ้นไป ในเดือนพฤศจิกายน 2565 ผลิต 13 คัน ซึ่งไม่มีการผลิตในเดือนพฤศจิกายน 2564 แต่ตั้งแต่เดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2565 ผลิตได้ 48 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 65.52

รถยนต์บรรทุก เดือนพฤศจิกายน 2565 ผลิตได้ทั้งหมด 120,272 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 10.05 และตั้งแต่เดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2565 ผลิตได้ทั้งสิ้น 1,178,444 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 34.45

รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนพฤศจิกายน 2565 ผลิตได้ทั้งหมด 116,794 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 11.02 และตั้งแต่เดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2565 ผลิตได้ทั้งสิ้น 1,140,296 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 66.11 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 20.09 โดยแบ่งเป็น

  • รถกระบะบรรทุก 274,958 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 14.80
  • รถกระบะดับเบิลแค็บ 722,482 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 21.37
  • รถกระบะ PPV 142,856 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 24.47

รถบรรทุกขนาดต่ำกว่า 5 ตัน – มากกว่า 10 ตัน เดือนพฤศจิกายน 2565 ผลิตได้ 3,478 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 15.03 แต่เดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2565 ผลิตได้ 38,148 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 18.64

ผลิตเพื่อส่งออก

เดือนพฤศจิกายน 2565 ผลิตได้ 107,345 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 56.45 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 19.12 ส่วนเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2565 ผลิตเพื่อส่งออกได้ 951,551 คัน เท่ากับร้อยละ 55.17 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ระยะเวลาเดียวกัน ร้อยละ 8.26

รถยนต์นั่ง เดือนพฤศจิกายน 2565 ผลิตเพื่อการส่งออก 36,396 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 85.94 และตั้งแต่เดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2565 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 260,645 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 47.70 ของยอดผลิตรถยนต์นั่ง เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 0.38

รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนพฤศจิกายน 2565 มียอดการผลิตเพื่อการส่งออก 70,949 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 0.58 และตั้งแต่เดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2565 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 690,906 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 60.59 ของยอดการผลิตรถกระบะ เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 11.56 โดยแบ่งเป็น

 

  • รถกระบะบรรทุก 77,374 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 3.58
  • รถกระบะดับเบิลแค็บ 530,887 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 11.61
  • รถกระบะ PPV 82,645 คัน   เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 19.93

 

 

ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ

เดือนพฤศจิกายน 2565 ผลิตได้ 82,810 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 43.55 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 10.06 และเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2565 ผลิตได้ 773,358 คัน เท่ากับร้อยละ 44.83 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 41.33

รถยนต์นั่ง เดือนพฤศจิกายน 2565 ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 33,474 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 8.26 ยอดผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศของรถยนต์นั่ง ตั้งแต่เดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2565 ผลิตได้ 285,772 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 52.30 ของยอดการผลิตรถยนต์นั่ง โดยเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2564 แล้ว ลดลงร้อยละ 1.45

รถยนต์โดยสารขนาดต่ำกว่า 10 ตัน และมากกว่า 10 ตัน ขึ้นไป ในเดือนพฤศจิกายน 2565 ผลิต 13 คัน ซึ่งไม่มีการผลิตในเดือนพฤศจิกายน 2564 แต่ตั้งแต่เดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2565 ผลิตได้ 48 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 65.52

รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนพฤศจิกายน 2565 มียอดการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 45,845 คัน  เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 32.27 และตั้งแต่เดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2565 ผลิตได้ทั้งสิ้น 449,390 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 39.41 ของยอดการผลิตรถกระบะ เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 36.07 ซึ่งแบ่งเป็น

 

  • รถกระบะบรรทุก 197,584 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 19.89
  • รถกระบะดับเบิลแค็บ 191,595 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 60.22
  • รถกระบะ PPV 60,211 คัน            เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 31.28

รถจักรยานยนต์

เดือนพฤศจิกายน 2565 ผลิตรถจักรยานยนต์ได้ทั้งสิ้น 238,050 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 2.77 แยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 189,040 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ร้อยละ 0.29 และชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 49,010 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ร้อยละ 13.61

ยอดการผลิตรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2565 มีจำนวนทั้งสิ้น 2,406,404 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ร้อยละ 15.03 แยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 1,835,466 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ร้อยละ 13.80 และชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 570,938 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ร้อยละ 19.14

 

ยอดขาย

ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนพฤศจิกายน 2565 มีจำนวนทั้งสิ้น 68,284 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 4.79 ลดลงเพราะมีน้ำท่วมในหลายพื้นที่โดยขายได้เพียงร้อยละ 79.16 ของยอดการผลิตเพื่อขายในประเทศ ทั้งๆที่เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศเก้าล้านกว่าคนรวมทั้งนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศมีเงินลงทุนกว่าหนึ่งแสนล้านบาท ส่งผลให้คนมีงานทำเพิ่มขึ้นมีรายได้เพิ่มขึ้น แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 2565 ร้อยละ 5.67

ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 150,980 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 4.38 และเพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 2565 ร้อยละ 12.66

ตั้งแต่เดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2565 รถยนต์มียอดขาย 766,589 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ในระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 14.67 ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 1,647,571 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 12.67

 

การส่งออก

รถยนต์สำเร็จรูป

เดือนพฤศจิกายน 2565 ส่งออกได้ 87,979 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 10.98 และลดลงจากเดือนตุลาคม 2565 ร้อยละ 6.63 ลดลงเพราะส่งออกได้แค่ร้อยละ 81.96  ของยอดผลิตเพื่อส่งออกจากการขาดแคลนพื้นที่จอดรถยนต์ส่งออกในเรือประเภทบรรทุกสินค้าที่มีล้อ และมีมูลค่าการส่งออก 56,071.91 ล้านบาท ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 2.89

  • เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 3,750.73 ล้านบาท ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 16.95
  • ชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ มีมูลค่าการส่งออก 16,014.24 ล้านบาท ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 2.13
  • อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 2,578.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 39.12

รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนพฤศจิกายน 2565 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 78,415.24 ล้านบาท ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 2.55

เดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2565 ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 888,651 คัน โดยเพิ่มขึ้นจากปี 2564 ในระยะเวลาเดียวกัน ร้อยละ 3.59 และมีมูลค่าการส่งออก 553,354.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 10.64

  • เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 40,065.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 7.30
  • ชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ มีมูลค่าการส่งออก 186,377.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 1.04
  • อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 26,087.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 17.15

รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2565 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 805,884.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 8.29

 

รถจักรยานยนต์

เดือนพฤศจิกายน 2565 มีจำนวนส่งออก 89,707 คัน (รวม CBU + CKD) โดยเพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 10.71 และเพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 2565 ร้อยละ 161.68 โดยมีมูลค่า 6,595.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 13.94

  • ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 300.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 29.98
  • อะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 199 ล้านบาท ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 6.47

 

รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์ เดือนพฤศจิกายน 2565 ชิ้นส่วนและอะไหล่รถจักรยานยนต์ 7,095.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 13.94

 

เดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2565 รถจักรยานยนต์ มีจำนวนส่งออก 942,880 คัน (รวม CBU + CKD) เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ร้อยละ 7.11 โดยมีมูลค่า 66,614.92 ล้านบาท ลดลงจากปี 2564 ร้อยละ 5.30

 

  • ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 2,587.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ร้อยละ 17.05
  • อะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 2,304.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ร้อยละ 16.45

 

รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2565 ชิ้นส่วนและอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 71,507.40 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 4.06

 

เดือนพฤศจิกายน 2565 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่นๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 85,510.81 ล้านบาท ลดลงจากปี 2564 ร้อยละ 1.37

เดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2565 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่นๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 877,391.60 ล้านบาท พิ่มขึ้นจากปี 2564 ร้อยละ 7.16

 

ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV เดือนพฤศจิกายน 2565

เดือนพฤศจิกายน 2565 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 2,878 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วร้อยละ 257.07 โดยแบ่งเป็น

  • รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 1,314 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 731.76
    • รถยนต์นั่งจำนวน  1,296 คัน
    • รถยนต์นั่งโดยสารไม่เกิน 7 คนจำนวน      17 คัน
    • รถยนต์บริการธุรกิจ        1 คัน
  • รถกระบะ รถแวนมีทั้งสิ้น 5 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 25
  • รถยนต์สามล้อรับจ้างมีทั้งสิ้น 41 เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 925
  • รถยนต์รับจ้างสามล้อจำนวน      40 คัน
  • รถยนต์สามล้อส่วนบุคคลจำนวน       1 คัน
  • รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 1,297 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 52
    • รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจำนวน 1,297 คัน
  • รถโดยสารมีทั้งสิ้น 221 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 10,950

 

เดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2565 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน      18,135 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤศจิกายนปีที่แล้วร้อยละ 234.53 โดยแบ่งเป็น

  • รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 8,401 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 364.14
    • รถยนต์นั่งจำนวน   8,342 คัน
    • รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนจำนวน       54 คัน
    • รถยนต์บริการธุรกิจ        5  คัน
  • รถกระบะ รถแวนมีทั้งสิ้น 26 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 100
  • รถยนต์สามล้อรับจ้างมีทั้งสิ้น 213 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 395.35
  • รถยนต์รับจ้างสามล้อจำนวน    189    คัน
  • รถยนต์สามล้อส่วนบุคคลจำนวน      24    คัน
  • รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 8,831 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 153.76
    • รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจำนวน 8,828  คัน
    • รถจักรยานยนต์สาธารณะจำนวน       3  คัน
  • รถโดยสารมีทั้งสิ้น 641 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 766.22
  • รถบรรทุกมีทั้งสิ้น 23 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 2,200

 

 

ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท HEV เดือนพฤศจิกายน 2565

เดือนพฤศจิกายน 2565 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 5,090 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วร้อยละ 82.05 โดยแบ่งเป็น

  • รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 5,052 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 123.11
    • รถยนต์นั่งจำนวน 5,045 คัน
    • รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนจำนวน       4 คัน
    • รถยนต์บริการธุรกิจจำนวน       1 คัน
    • รถยนต์บริการทัศนาจรจำนวน       2 คัน
  • รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 38 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 25
    • รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจำนวน      38  คัน

 

เดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2565 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน  59,937 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วร้อยละ 78.67 โดยแบ่งเป็น

  • รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 59,497 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤศจิกายน2564 ร้อยละ 85.22
    • รถยนต์นั่งจำนวน 59,411 คัน
    • รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนจำนวน      71  คัน
    • รถยนต์บริการธุรกิจจำนวน        5  คัน
    • รถยนต์บริการทัศนาจรจำนวน        9  คัน
    • รถยนต์บริการให้เช่าจำนวน        1  คัน
  • รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 439 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 69.17
    • รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจำนวน     439 คัน
  • รถโดยสารมีทั้งสิ้น 1 คัน ซึ่งเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2564 ยังไม่มีการจดทะเบียน

 

ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท PHEV เดือนพฤศจิกายน 2565

เดือนพฤศจิกายน 2565 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 961 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วร้อยละ 48.76 โดยแบ่งเป็น

  • รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 961 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 84.98
    • รถยนต์นั่งจำนวน 961 คัน

 

เดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2565 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน  10,652 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤศจิกายนปีที่แล้วร้อยละ 63.70 โดยแบ่งเป็น

  • รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 10,652 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 63.70
    • รถยนต์นั่งจำนวน           10,65  คัน
    • รถยนต์บริการให้เช่าจำนวน       1   คัน

 

ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2565

ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV มีจำนวนทั้งสิ้น 29,402คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 169.40 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้

  • รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 12,490 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 214.85
  • รถยนต์นั่งมีจำนวน 12,319 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 218.81
  • รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารฯ มีจำนวน 157 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 92
  • รถยนต์บริการธุรกิจมีจำนวน 7 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 600
  • รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มีจำนวน 7 ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ยังไม่มีการจดทะเบียน
  • รถกระบะและรถแวนมีจำนวน 68 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 126.67
  • รถยนต์ 3 ล้อมีจำนวนทั้งสิ้น 483 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 84.35
  • รถยนต์สามล้อส่วนบุคคลมีจำนวน 59 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 96.67
  • รถยนต์รับจ้างสามล้อมีจำนวน 424 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 82.76
  • รถจักรยานยนต์มีจำนวนทั้งสิ้น 15,459 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 139.23
  • รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลมีจำนวน 15,387 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 138.85
  • รถจักรยานยนต์สาธารณะมีจำนวน 72 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 260
  • อื่นๆ
  • รถโดยสารมีจำนวนทั้งสิ้น 877 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 354.40
  • รถบรรทุกมีจำนวนทั้งสิ้น 25 คัน ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ยังไม่มีการจดทะเบียน

 

ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2565

ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV มีจำนวนทั้งสิ้น 255,773 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 31.59 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้

  • รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 246,763 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 32.82
  • รถยนต์นั่งมีจำนวน 246,139 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 32.97
  • รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารฯ มีจำนวน 491 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 90
  • รถยนต์บริการธุรกิจ มีจำนวน 28 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 16.67
  • รถยนต์บริการทัศนาจร มีจำนวน 81 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 9.46
  • รถยนต์บริการให้เช่า มีจำนวน 3 คัน เท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2564
  • รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มีจำนวน 21 ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ยังไม่มีการจดทะเบียน
  • รถกระบะและรถแวนมีจำนวน 1 คัน เท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2564
  • รถจักรยานยนต์มีจำนวนทั้งสิ้น 9,007 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 99
  • รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลมีจำนวน 9,007 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 4.99
  • อื่นๆ
  • รถโดยสารมีจำนวนทั้งสิ้น 2 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564
  • รถบรรทุกมีจำนวนทั้งสิ้น 1 คัน เท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2564

 

ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2565

ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV มีจำนวนทั้งสิ้น 41,743 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 36.43 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้

  • รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 41,743 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 36.43
  • รถยนต์นั่งมีจำนวน 41,680 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 36.49
  • รถยนต์บริการธุรกิจมีจำนวน 40 คัน เท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2564
  • รถยนต์บริการทัศนาจรมีจำนวน 20 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 9.09
  • รถยนต์บริการให้เช่ามีจำนวน 3 คัน ซึ่งช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ยังไม่มีการจดทะเบียน


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save