บราเดอร์ เปิดเกมรุกปี’66เต็มสูบ เสริมทีมขาย -เจาะกลุ่มธุรกิจกำลังซื้อสูง -เปิดตัวสินค้าใหม่ ดันยอดขายเติบโตกว่า 5%


บราเดอร์ เปิดเกมรุกปี’66เต็มสูบ เสริมทีมขาย -เจาะกลุ่มธุรกิจกำลังซื้อสูง -เปิดตัวสินค้าใหม่ ดันยอดขายเติบโตกว่า 5%

บราเดอร์ ประกาศแผนและทิศทางการดำเนินธุรกิจเชิงรุกในปีงบประมาณ 2566 หลังปีที่ผ่านมาเติบโตสูงถึง 12%  พร้อมเสริมทีมทุกส่วนให้พร้อมเดินหน้ารับเศรษฐกิจฟื้น เล็งขยายส่วนแบ่งการตลาดทั้งกลุ่ม Print และ Non-print ปูพรมเปิดตัวสินค้าใหม่ตลอดทั้งปี ขยายทีมเซลล์เจาะลูกค้าเพื่อนำเสนอโซลูชัน ติดปีกดีลเลอร์เพิ่มศักยภาพการขายให้มากยิ่งขึ้น  และสร้างสรรค์กิจกรรมเพื่อส่งเสริมสังคมและสิ่งแวดล้อมดังเช่นทุกปีที่ผานมา

บราเดอร์ เปิดเกมรุกปี’66เต็มสูบ เสริมทีมขาย -เจาะกลุ่มธุรกิจกำลังซื้อสูง -เปิดตัวสินค้าใหม่ ดันยอดขายเติบโตกว่า 5%

ธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2022 บราเดอร์ครบรอบ 25 ปี  และสามารถทำยอดขายได้สูงสูด คือ เติบโต 12% เมื่อเทียบกับปี 2021  ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากสินค้าและบริการ รวมทั้ง Business Partner  และพนักงาน

ปีงบประมาณ 2566  บราเดอร์เดินหน้ารุกตลาดครั้งใหญ่ เพื่อทำให้เกิดการรับรู้และการยอมรับในแบรนด์เพิ่มมากขึ้นทั้งในกลุ่มลูกค้าองค์กรและกลุ่มลูกค้าผู้บริโภค ครอบคลุมทุกกลุ่มเจนเนอเรชัน โดยเฉพาะกลุ่มนิวเจนที่ บราเดอร์ เห็นว่ามีโอกาสในการเติบโตได้อีกมาก  ซึ่งบริษัทฯ เน้นเจาะกลุ่มดังกล่าวเพิ่มขึ้นด้วยการใช้กลยุทธ์แบรนด์พรีเซนเตอร์มาเชื่อมและพัฒนาจากผู้บริโภคสู่ Community

ในปี 2023  บราเดอร์จะมี Laser Printer   ทั้งหมด 29 รุ่น ทั้งสี และขาวดำ  และMulti-function  ตอบโจทย์ Soho,SME และองค์กรที่มีพนักงานมากกว่า 500 คนขึ้นไป  ส่วน Ink Tank และ Inkjet มีทั้งหมด 13 รุ่น  รวมทั้ง Scanner   ซึ่งในช่วง2 ปีที่ผ่านมา  เติบโต 120% มีทั้งหมด 9 รุ่น  ตอบโจทย์แม่ค้าออนไลน์, Soho, SME และHome Use ที่่ ใช้ Mobile Scanner

“ความได้เปรียบของ บราเดอร์ คือการมีผลิตภัณฑ์ทั้งกลุ่ม Print และ Non-print ที่พร้อมตอบความต้องการทุกเจนเนอเรชัน ด้วยเหตุผลดังกล่าวทำให้สามารถพัฒนากลยุทธ์การตลาดได้หลากหลายและปรับให้เป็นไปตามความต้องการของตลาดได้ทุกกลุ่ม ซึ่งในปีนี้ บราเดอร์ มีการปรับโครงสร้างทีมขาย ที่พร้อมจะสนับสนุนพาร์ทเนอร์ให้ร่วมสร้างการเติบโตไปพร้อมกัน   และ เพื่อรับการกลับมาของตลาดเราจึงวางแผนที่จะเปิดตัวสินค้าใหม่ในทุกกลุ่มตลอดปี และที่สำคัญเราได้วางกลยุทธ์เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ให้แก่ลูกค้า ด้วยการจับมือแบรนด์ระดับโลกสร้างสรรค์ Collaborative Product เพื่อเพิ่มศักยภาพให้แก่สินค้าของ บราเดอร์”  ธีรวุธ กล่าว

สำหรับกลุ่มลูกค้าของบราเดอร์ ประกอบด้วย  กลุ่ม SME 50% กลุ่ม Home Use  30% และกลุ่มองค์กร และหน่วยงานภาครัฐ 20% บราเดอร์ เปิดเกมรุกปี’66เต็มสูบ เสริมทีมขาย -เจาะกลุ่มธุรกิจกำลังซื้อสูง -เปิดตัวสินค้าใหม่ ดันยอดขายเติบโตกว่า 5%

ทิพยา ไตรเสถียรกุล ผู้จัดการอาวุโสแผนกธุรกิจเครื่องพิมพ์ บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงทิศทางตลาดเครื่องพิมพ์ในไทยว่า สำหรับ บราเดอร์ ภาพรวมของตลาดเครื่องพิมพ์ในไทยยังคงทรงตัว การที่บราเดอร์จะเติบโตได้นั้นจะต้องขยายส่วนแบ่งการตลาดให้เพิ่มมากขึ้นด้วยการวางแผนขยายฐานกลุ่มลูกค้าคอมเมอร์เชียลให้เข้มข้นยิ่งขึ้น  สร้างสรรค์โปรแกรมการใช้งานที่เพิ่มความสะดวกและความคุ้มค่าเพื่อรักษากลุ่มลูกค้าในระยะยา เช่นเดียวกับกลุ่มตลาดรีเทล ที่บราเดอร์ได้รุกตลาดอย่างเต็มที่ในปีที่ผ่านมา ทั้งยังนำเสนอสินค้าใหม่ที่เพิ่มศักยภาพด้านคุณภาพการพิมพ์สู่ตลาด เพื่อเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่มีคุณภาพที่สุดสู่ตลาด  ซึ่งในปีนี้ บราเดอร์ จะสานต่อกลยุทธ์ดังกล่าวในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์ เพื่อเพิ่มโอกาสทางการตลาดให้มากขึ้น ยิ่งในปีนี้ บราเดอร์ มีแบรนด์พรีเซนเตอร์ PROXIE (พร็อกซี) ยิ่งทำให้ง่ายต่อการนำเสนอผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์สู่กลุ่มคนรุ่นใหม่ได้มากขึ้น

จากรายงานของ จีเอฟเค (GFK) เกี่ยวกับตัวเลขส่วนแบ่งการตลาดของเครื่องพิมพ์ในปี 2565 ระบุว่า บราเดอร์ครองส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มเครื่องพิมพ์โมโนเลเซอร์มัลติฟังก์ชัน 47.8%  เป็นอันดับ 1

กลุ่มเครื่องพิมพ์โมโนเลเซอร์อยู่ที่ 27.7% เป็นอันดับ 1กลุ่มเครื่องพิมพ์คัลเลอร์เลเซอร์มัลติฟังก์ชัน 51.5% เป็นอันดับ 1 กลุ่มเครื่องพิมพ์คัลเลอร์เลเซอร์อยู่ที่ 37.3%  เป็นอันดับ 1และกลุ่มเครื่องพิมพ์อิงค์แทงค์อยู่ที่ 23.4% เป็นอันดับ 3

ในปีนี้ บราเดอร์ ยังคงสร้างการรับรู้เกี่ยวกับประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้จากการใช้วัสดุสิ้นเปลืองแท้ (G

enuine Consumable Products) ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา     ด้วยการร่วมมือกับช่องทางการขายที่จำหน่ายเฉพาะผลิตภัณฑ์แท้ทำการโปรโมทมาอย่างต่อเนื่องซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดี การเติบโตของช่องทางขายแบบอีคอมเมิร์ซ (e-commerce Channel) ส่งผลต่อประสิทธิภาพการขายในยุคปัจจุบัน  บราเดอร์ จึงเลือก Partner ด้านe-commerce 10 รายมาช่วยเสริมทัพ เพื่อเดินหน้าพัฒนาศักยภาพในด้านดังกล่าวแก่ช่องทางการขายทั่วประเทศด้วยเช่นกัน

หากวิเคราะห์ถึงกระแสนิยมด้านการพิมพ์ ณ ปัจจุบันพบว่า ความต้องการในแบบ Print on Demand หรือ Manage Print Service  ยังคงเป็นกระแสที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในกลุ่มลูกค้าคอมเมอร์เชียล    และเป็นสิ่งที่ บราเดอร์ ให้ความสำคัญมาตลอด และยังคงเน้นเพื่อการเติบโตต่อไปในปีนี้

บราเดอร์ เปิดเกมรุกปี’66เต็มสูบ เสริมทีมขาย -เจาะกลุ่มธุรกิจกำลังซื้อสูง -เปิดตัวสินค้าใหม่ ดันยอดขายเติบโตกว่า 5%

พงษ์พันธ์ สุระวัฒน์เจริญ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายขยายธุรกิจ บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ความสำเร็จของ บราเดอร์   คือการพิสูจน์ให้เห็นว่าเราสามารถก้าวสู่การเป็น 1 ใน 3 แบรนด์ผู้นำในทุกกลุ่มตลาด Non-print โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์ผ้าระบบดิจิทัล GTX (Direct to Garment)  ที่ครองส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 80% ด้วยคุณลักษณะที่สามารถสร้างสรรค์ชิ้นงานในแบบ Personalized Printing ได้ ในปี 2022 บราเดอร์สามารถเจาะตลาดโรงงานสกรีนได้ ตั้งเป้าปีนี้เติบโต 15%

นอกจากนี้ การนำเสนอนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นเพื่อช่วยแก้ปัญหาของผู้บริโภค ก็เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่ บราเดอร์ ใช้เพื่อเปิดรับผู้บริโภคกลุ่มใหม่  ดังเช่นการเปิดตัว  ‘Brother AirSure’  เครื่องดักจับฝุ่นและละอองฝอยในอากาศที่ยังไม่เคยมีมาก่อนในไทย ได้รับการการันตีจาก 2 สถาบันระดับโลกถึงประสิทธิภาพในการดักจับไวรัสโอไมครอนได้ถึง 99.9% ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ขององค์กรชั้นนำ นับเป็นการขยายธุรกิจสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์นวัตกรรมด้านสุขภาพเป็นครั้งแรกในไทย

สำหรับแผนการขยายส่วนแบ่งการตลาดในปีนี้จะสอดคล้องไปกับแผนแม่บทขององค์กร ที่เน้นขยายตลาดสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่ และการนำศักยภาพของสินค้าบราเดอร์มารวมกันในรูปแบบโซลูชันเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายได้อย่างลงตัวที่สุด ในช่วงไตรมาสที่ 2 นี้จะเปิดตัวสินค้าใหม่อีก 2 ผลิตภัณฑฺ์  เพื่อแข่งขันในตลาด Commercial Printiing  มากขึ้น

พีรพงศ์ พรประมินทร์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายขาย บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงแผนการพัฒนาโครงสร้างทีมขายของบราเดอร์ว่า ได้กำหนดทิศทางการรุกตลาดโดยพุ่งเป้าไปที่กลุ่มลูกค้าคอมเมอร์เชียลเป็นหลัก ครอบคลุมทั้งการจำหน่ายผ่านพาร์ทเนอร์ตัวแทนขาย โดย

ปีนี้บราเดอร์ได้เดินหน้าขยายศักยภาพของตัวแทนขายในทุกด้าน   เพิ่มโอกาสทางการขายด้วยการเสนอขายสินค้ากลุ่มใหม่ๆ  ของบราเดอร์  เพื่อเติมเต็มความต้องการของกลุ่มลูกค้าให้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ บราเดอร์ ยังต้องการเจาะเข้าสู่กลุ่มธุรกิจที่มีศักยภาพ อาทิ กลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม กลุ่มธุรกิจเฮลธ์แคร์ กลุ่มธุรกิจค้าปลีก กลุ่มธุรกิจการศึกษา ฯลฯ  พร้อมทั้งขยายทีมขายตอบโครงสร้างใหม่ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพื่อรองรับการทำงานเชิงรุกมุ่งนำเสนอนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ในรูปแบบโซลูชันที่ผสมผสานผ่านกลยุทธ์ Cross-Selling ประสานงานกับดีลเลอร์ในรูปแบบทีมเวิร์ค

“การปรับรูปแบบและกลยุทธ์ด้านการขายในครั้งนี้จะช่วยให้บราเดอร์เติบโตเพิ่มขึ้นในภาพรวม ทั้งยังขยายช่องทางขายแบบอีคอมเมิร์ซ (E-commerce Channel) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขายในปัจจุบัน”พีรพงศ์ กล่าว บราเดอร์ เปิดเกมรุกปี’66เต็มสูบ เสริมทีมขาย -เจาะกลุ่มธุรกิจกำลังซื้อสูง -เปิดตัวสินค้าใหม่ ดันยอดขายเติบโตกว่า 5%

นรีรัตน์ นวนพรัตน์สกุล ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาด บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า  ล่าสุด  บราเดอร์  ได้เปิดตัวศิลปิน  T-Pop PROXIE (พร็อกซี)  ในฐานะแบรนด์พรีเซนเตอร์  เพื่อสนับสนุนแผนการขยายฐานลูกค้าสู่กลุ่มนิวเจน  ผ่านแนวคิด “ไปให้สุดเวย์ LET’s bro”  พร้อมอยู่เคียงข้างทุกความฝันด้วยศักยภาพสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ครอบคลุมทุกความต้องการ รวมทั้งประชาสัมพันธ์ผ่าน Tiktok และ Twitterปัจจุบันบราเดอร์มีสัดส่วนลูกค้ากลุ่ม Gen Z  อยู่ที่  11%   คาดปี 2566  จะสามารถเพิ่มฐานลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่ขึ้นเป็น 20%

การจุดกระแสนิยมในครั้งนี้พุ่งเป้าไปที่ภารกิจการสร้าง Community คนรุ่นใหม่ให้เกิดขึ้น ผ่านกลยุทธ์ Customer Experience สร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจ และเมื่อ บราเดอร์ มี Community ที่แข็งแกร่งก็จะพัฒนาให้เกิด Brand Loyalty ได้ในอนาคต ขณะเดียวกัน บราเดอร์ให้ความสำคัญกับกลุ่ม B2B  โดยเน้นสร้าง Contentให้สื่อสารเข้าใจง่าย บราเดอร์ เปิดเกมรุกปี’66เต็มสูบ เสริมทีมขาย -เจาะกลุ่มธุรกิจกำลังซื้อสูง -เปิดตัวสินค้าใหม่ ดันยอดขายเติบโตกว่า 5%

รัสสิญากร ตัณฑวณิชย์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายบริการลูกค้า บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงทิศทางในการครองความเป็นผู้นำด้านบริการว่า บราเดอร์ยังคงใช้กลยุทธ์ 4C เป็นหลักในการดำเนินงานในปี 2022-2024  ประกอบด้วย

Customer-ลูกค้า  เน้นเข้าถึงกลุ่มลูกค้าให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น    ลูกค้าจะได้สัมผัสความเป็นบราเดอร์ผ่านกิจกรรมต่างๆ ทั้งกิจกรรมเชิงไลฟ์สไตล์และกิจกรรมที่ร่วมกันดูแลผลิตภัณฑ์ให้ใช้ได้ในระยะยาวเพื่อสร้าง Engagement กับลูกค้า อาทิ การตรวจเช็คสภาพเครื่อง โดยสามารถจองผ่านระบบบนเว็บไซด์ การได้รับสิทธิประโยชน์ จากการใช้เครื่องและวัสดุการพิมพ์แท้ตามจำนวนการใช้งานและระยะเวลาการใช้งาน   การร่วมกิจกรรมในรูปแบบต่างๆ  เช่น การสำรวจความพึงพอใจ เป็นต้น

Channel-ช่องทางการให้บริการ ปัจจุบัน บราเดอร์ มีช่องทางการให้บริการรวม 8 ช่องทาง โดยมี 5 ช่องทางที่ดูแลโดยทีม Contact Center ของ บราเดอร์ ได้แก่ บริการทางโทรศัพท์ อีเมล์ Facebook Live Chat และ น้อง Care Chatbot และช่องทางอื่นๆ อีก 3 ช่องทาง ได้แก่ศูนย์บริการ 5 สาขา ที่บริหารงานโดยบราเดอร์, ทีมบริการ Brother Onsite  Service และ ศูนย์บริการแต่งตั้ง (Authorized Service Center) ครอบคลุมทั่วประเทศไทย และ 3 แห่งในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

Convenience-ความสะดวกสบายในการใช้บริการ ด้วยการนำดิจิทัล เทคโนโลยีเข้ามาช่วยพัฒนา Chatbot อัจฉริยะ ทั้งน้อง Care ที่ให้บริการครอบคลุมทั้งก่อนและหลังการขายตลอด 24 ชั่วโมง และ Mr.Carer ที่พัฒนาขึ้นเพื่อให้บริการแก่ศูนย์บริการแต่งตั้งทั้งหมด เพื่อสร้างมาตรฐานการให้บริการซ่อมบำรุงให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันทุกแห่ง

Community-ชุมชน  โดยในปีที่ผ่านมาได้ดำเนินการใน 3 กิจกรรม ประกอบด้วย Brother Care Pack บริการเสริมเพื่อเพิ่มระยะเวลาในการประกันเครื่องให้สามารถใช้ง่ายได้ในระยะยาว  ช่วยให้ลูกค้าสามารถประหยัดค่าใช้จ่าย ขณะเดียวกันยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมเพราะลดการใช้พลาสติกและลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ได้ด้วยเช่นกัน, การรณรงค์ให้ทิ้งวัสดุการพิมพ์อย่างถูกวิธี ผ่าน Brother Care Earth โดยลูกค้าสามารถส่งไปทิ้งได้ที่ศูนย์บริการของบราเดอร์ทั่วประเทศ เพื่อบริษัทฯ จะไปจ้างบริษัทบริหารและพัฒนาเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม จำกัด (มหาชน)  หรือ GENCOนำไปทำลายอย่างถูกวิธี เพื่อไม่ให้เกิดมลภาวะต่อโลก    และการส่งเสริมด้านการศึกษาพัฒนาทักษะอาชีพ เพิ่มศักยภาพความพร้อมให้คนรุ่นใหม่

นอกจากกลยุทธ์ 4C แล้ว เพื่อให้มั่นใจได้ว่าลูกค้าที่มาใช้บริการจะได้รับความพึงพอใจและดูแลชุมชนไปพร้อมๆ กัน  ส่วนบริการของบราเดอร์ได้เพิ่มเติม กลยุทธ์ S5 ในกิจกรรมที่ทำ ต้องคำนึงถึง คือ 1.Standard ที่

เน้นแผนการพัฒนาสู่การให้บริการที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน จากที่มีอยู่แล้ว คือ Brother Service Excellence เพิ่มเติมคือ Brother Service Quality Assurance (BSQA) โดยนำเกณฑ์คุณภาพในการบริการมาปรับให้สอดคล้องกับกลุ่มลูกค้า และผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมากขึ้นพัฒนาศักยภาพศูนย์บริการ และศูนย์บริการแต่งตั้ง เพื่อรองรับการให้บริการทุกกลุ่มลูกค้าและสินค้าของบราเดอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น  2.Satisfaction   การสร้างความพึงพอใจในทุกจุดสัมผัส  (Touch Point)  3. Superior Services  การได้รับการบริการที่เหนือกว่าเพิ่มการให้คุณค่าแก่ลูกค้า  ด้วยการสร้างEngagement ผ่านกิจกรรมที่จะทำขึ้น  4.Sustainability ยังคงสานต่อกิจกรรมทั้ง Brother Care Pack, การรณรงค์ให้ทิ้งวัสดุการพิมพ์อย่างถูกวิธี และเพิ่มจำนวนสถานศึกษาเพื่อส่งเสริมด้านการพัฒนาทักษะอาชีพทั้ง Hard Skill และ Soft Skill ให้ครอบคลุมทั่วทุกภาค และ 5.System เพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการของ Chatbot ทั้งในส่วนของน้อง Care และ Mr. Carer เพื่อมอบความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้า บราเดอร์ เปิดเกมรุกปี’66เต็มสูบ เสริมทีมขาย -เจาะกลุ่มธุรกิจกำลังซื้อสูง -เปิดตัวสินค้าใหม่ ดันยอดขายเติบโตกว่า 5%

ด้านพรภัค อุไพศิลป์สถาพร ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการเงินและบริหาร บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงแนวทางในการขับเคลื่อนกิจกรรมเพื่อสังคมในปีงบประมาณ 2566  ว่า จะมุ่งเน้นดำเนินงานให้สอดคล้องกับแนวคิด ESG พัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืนตอบโจทย์แผนการพัฒนา BCG ที่

ทั้งประเทศไทยและทั่วโลกต่างให้ความสำคัญในปัจจุบัน  ซึ่ง บราเดอร์ ได้กำหนดทิศทางดำเนินงานภายใต้แนวคิด at your side 2030 ที่มุ่งเน้นให้เกิดความชัดเจนด้านวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนของการดำเนินงานเป็นสำคัญ ให้มั่นใจได้ว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเสมอ

ในส่วนงานด้าน CSR นั้น บราเดอร์ ยังคงมุ่งส่งเสริมและคืนกลับสิ่งดีๆ สู่สังคม พร้อมทั้งช่วยรณรงค์เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมบนโลกเพื่อความยั่งยืน โดย บราเดอร์ ได้กำหนดกลยุทธ์เพื่อสร้างความยั่งยืน แบ่งออกเป็น กลยุทธ์ระยะกลาง 2030 โดยพุ่งเป้าไปที่การลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่ก่อให้เกิดภาวะก๊าซเรือนกระจกให้ได้ 30% ลดการใช้พลาสติกใหม่ให้น้อยที่สุดและนำพลาสติกที่ใช้แล้วมาเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลเพื่อผลิตใหม่ และการส่งเสริมผู้บริโภคให้เกิดการใช้ซ้ำของบรรจุภัณฑ์วัสดุการพิมพ์เพื่อลดขยะปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เกิดขึ้น และกลยุทธ์ระยะยาว 2050 สร้างให้เกิดสังคม Decarbonization พุ่งเป้าเพื่อให้บรรลุการกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์จากเชื้อเพลิงฟอสซิลจนเหลือศูนย์ และหันมาใช้พลังงานธรรมชาติทดแทนควบคู่ไปกับการรักษาสมดุลของระบบนิเวศบนโลกให้สมบูรณ์ที่สุด

“สำหรับกิจกรรม CSR ของ บราเดอร์ในไทยนั้น จะยังคงเน้นสองกิจกรรมหลัก คือ โครงการอาสาอนุรักษ์และฟื้นฟูธรรมชาติป่าชายเลน และโครงการ Brother Beat Cancer Run พร้อมทั้งดำเนินการต่อในส่วนของกิจกรรมรองในโครงการ บราเดอร์ อีโค่บริกส์  และสร้างสรรค์กิจกรรม CSR ใหม่ๆ ขึ้น 4 กิจกรรมในแต่ละปี เพื่อให้ชุมชนที่เราดำเนินธุรกิจนั้น มีคุณภาพที่ดียิ่งขึ้น”  พรภัค กล่าวสรุปทิ้งท้าย


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save