มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) โดยคณะวิทยาศาสตร์ประยุกต์ ร่วมจับมือ โรงเรียนช่างฝีมือทหาร และมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ร่วมพัฒนานวัตกรรม “ตู้อบฆ่าเชื้อด้วยยูวีและข้อต่อหน้ากากป้องกันเชื้อโรคแบบความดันบวกชนิด Mini PAPR” หวังแก้ปัญหาการขาดแคลนหน้ากากอนามัยและอุปกรณ์ทางการแพทย์ มอบให้โรงพยาบาลนำไปใช้ทำงานสู้วิกฤต COVID-19
รศ. นพ.อนันต์ มโนมัยพิบูลย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช กล่าวว่า จากสถานการณ์ COVID-19 ที่แพร่ระบาดในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้หน้ากากอนามัยและอุปกรณ์ทางการแพทย์ไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้งานของบุคลากรทางการแพทย์ ดังนั้นมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช จึงได้ร่วมกับคณะวิทยาศาสตร์ประยุกต์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) และโรงเรียนช่างฝีมือทหาร ร่วมกันพัฒนานวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยเบื้องต้นตั้งเป้าผลิตตู้อบฆ่าเชื้อยูวีให้ได้ประมาณ 15 เครื่องต่อวัน และผลิตข้อต่อหน้ากากป้องกันเชื้อโรคแบบความดันบวกชนิด Mini PAPR
(Powered Air-Purnifying Respirator) ส่งมอบให้โรงพยาบาลทั่วประเทศ 500 ชุด ภายในเดือนเมษายนนี้
พล.อ.นเรนทร์ สิริภูบาล ผู้บัญชาการสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ กล่าวว่า โรงเรียนช่างฝีมือทหาร มีบุคลากรและนักเรียนที่มีฝีมือในการคิดค้นนวัตกรรมสำหรับช่วยเหลือประชาชนและบุคลากรทางการแพทย์หลากหลายด้าน สำหรับสถานการณ์ COVID-19 ถือเป็นสถานการณ์ที่หนักและค่อนข้างยากลำบากในการใช้ชีวิตและหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ใช้งานให้เพียงพอ โดยเฉพาะหน้ากากอนามัยและ PAPR (Powered Air-Purifying Respirator) จึงได้ร่วมศึกษาคิดค้นร่วมกับคณะวิทยาศาสตร์ประยุกต์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) และมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช
เพื่อสร้างอุปกรณ์ดังกล่าวที่เหมาะสมและเพียงต่อการบรรเทาปัญหาการขาดแคลนดังกล่าวอย่างรวดเร็วและทั่วถึง
รศ. ดร.สุรพันธ์ ยิ้มมั่น คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ประยุกต์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) กล่าวว่า ตู้อบฆ่าเชื้อยูวี เป็นนวัตกรรมที่อาศัยการฆ่าเชื้อโดยใช้รังสียูวีซี (UVC) ความยาว 253.7 นาโนเมตร จากหลอดกำเนิดรังสียูวีขนาด 8 วัตต์ จำนวน 2 หลอด ที่มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรียบนหน้ากากอนามัย จากการทดสอบบนหน้ากากอนามัย N95 ได้ภายใน 20 นาที และสามารถนำมาฉายรังสีซ้ำได้ถึง 10 ครั้ง โดยไม่มีความเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างและประสิทธิภาพในการกรองของเส้นใยของหน้ากากอนามัย
ปัจจุบันสามารถผลิตได้วันละ 15 เครื่อง และตั้งเป้าผลิตเบื้องต้นชุดแรกให้ได้ 120 เครื่อง เพื่อนำไปมอบให้กับโรงพยาบาลต่าง ๆ ที่ขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์โดยเฉพาะหน้ากากอนามัยใช้งานและขอรับเครื่องนี้นำไปใช้งาน
ศ. ดร.สมฤกษ์ จันทรอัมพร รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) กล่าวว่า ในส่วนของการพัฒนาข้อต่อหน้ากากป้องกันเชื้อโรคแบบความดันบวกชนิด Mini PAPR ทางมจพ.ได้ร่วมทำการศึกษาวิจัยคิดค้นร่วมกับมหาวิทยาลัยและพันธมิตรหลากหลายทั้งฝ่ายทหาร ภาครัฐ และเอกชน จนประสบความสำเร็จ ซึ่งประสิทธิภาพของหน้ากากป้องกันเชื้อโรคโดยใช้ข้อต่อที่เชื่อมระหว่างหน้ากากดำน้ำชนิดเต็มใบเข้ากับท่อลมที่มาจากชุดกรองอากาศที่คิดค้นได้มีประสิทธิภาพทัดเทียมกับ PAPR ที่สั่งซื้อจากต่างประเทศ เบื้องต้นตั้งเป้าส่งมอบชุดแรกให้ได้ 500 ชุดภายในเดือนเมษายน ศกนี้
นอกจากนี้ ภายในงานทางคณะทำงาน ได้ร่วมพัฒนานวัตกรรมตู้อบฆ่าเชื้อด้วยยูวี ได้มอบตู้อบฆ่าเชื้อด้วยยูวีเบื้องต้นที่พัฒนาสำเร็จแล้วให้กับโรงพยาบาลวชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช 5 เครื่อง, โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช 2 เครื่อง และโรงพยาบาลทหารผ่านศึก จำนวน 1 เครื่อง และมอบหน้ากาก Full Face พร้อมข้อต่อสำหรับประกอบชุดปรับแรงดัน Mini PAPR (Powered Air-Purifying Respirator) แก่โรงพยาบาลวชิรพยาบาล และมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช เบื้องต้นจำนวน 20 ชุด ส่วน ทั้งนี้จะทยอยผลิตและนำส่งมอบให้โรงพยาบาลอื่นๆ ต่อไป