“ดีป้า” ร่วมกับ “การท่าเรือฯ” นำเทคโนโลยีดิจิทัล พัฒนาท่าเรือแหลมฉบังสู่ Smart City


“ดีป้า” ร่วมกับ “การท่าเรือฯ” นำเทคโนโลยีดิจิทัล พัฒนาท่าเรือแหลมฉบังสู่ Smart City

ดีป้า และ การท่าเรือฯ ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนา Smart City ที่ท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อมุ่งสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะ เดินหน้าสานต่อการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่ง ยกระดับการบริหารจัดการสภาพการจราจรในพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อขับเคลื่อนสู่ท่าเรือที่ได้มาตรฐานระดับโลก ก่อนเดินหน้าประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า พร้อมด้วย เรือโท ยุทธนา โมกขาว รองผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย สายบริหารการเงินและกลยุทธ์องค์กร รักษาการแทนผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย

ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า พร้อมด้วย เรือโท ยุทธนา โมกขาว รองผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย สายบริหารการเงินและกลยุทธ์องค์กร รักษาการแทนผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนา Smart City ที่ท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อมุ่งสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะ ณ อาคารดีป้า ลาดพร้าว

ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า

ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า กล่าวว่า ความร่วมมือดังกล่าวสืบเนื่องมาจากบันทึกข้อตกลงความร่วมมือที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนมกราคม 2562 ที่มุ่งเน้นในเรื่องของการศึกษาและหาแนวทางแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง โดยความร่วมมือครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ที่จะพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังสู่การเป็นท่าเรืออัจฉริยะด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ เพื่อมุ่งเน้นให้เกิดการเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่ง ด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลการขนส่งหลากหลายรูปแบบ (Multimodal Transportation) ทั้งการส่งออกและนำเข้า ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งทางเรือและรถบรรทุก เพื่อให้เกิดการบูรณาการข้อมูลสำหรับผู้ให้บริการท่าเรือ รถไฟ รถบรรทุกขนส่งสินค้า ผู้ให้บริการคลังสินค้า ตลอดจนผู้นำเข้า-ส่งออก และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องด้านอื่น ๆ

พร้อมกันนี้ยังส่งเสริมให้เกิดการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการสภาพการจราจรในพื้นที่ท่าเรือฯ ซึ่งเทคโนโลยีดิจิทัลจะช่วยเพิ่มความสะดวก รวดเร็วแก่ผู้ใช้บริการ ลดความแออัด และระยะเวลารอคอย ลดต้นทุนด้านการขนส่ง รวมถึงมลพิษทางสิ่งแวดล้อม พร้อมขับเคลื่อนท่าเรือแหลมฉบังสู่การเป็นท่าเรือที่ได้มาตรฐานระดับโลก และรองรับการผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN Digital Hub) ซึ่งประเมินว่าจะก่อให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจมากกว่า 70,000 ล้านบาทต่อปี

เรือโท ยุทธนา ขาว รองผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย สายบริหารการเงินและกลยุทธ์องค์กร รักษาการแทนผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย

ด้าน เรือโท ยุทธนา ขาว รองผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย สายบริหารการเงินและกลยุทธ์องค์กร รักษาการแทนผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เทคโนโลยีดิจิทัลที่นำมาประยุกต์ใช้กับท่าเรือแหลมฉบังจะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการบริหารจัดการ และสามารถนำมาใช้เป็นฐานข้อมูล (Big Data) ที่สำคัญ เพื่อต่อยอดไปสู่การเป็นฐานข้อมูลด้านการขนส่งของท่าเรือแหลมฉบังและภาคตะวันออก อีกทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่มีการจัดเก็บและการบริหารฐานข้อมูล รองรับการทำงานระหว่างหน่วยงาน และการให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้กรอบธรรมาภิบาลข้อมูล อีกทั้งช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับบุคลากรในภาคอุตสาหกรรมขนส่ง และประชาชนในชุมชนโดยรอบ

สำหรับบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนา Smart City ที่ท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อมุ่งสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะให้ความสำคัญกับการจัดให้มีบริการอัจฉริยะ ซึ่งเป็นการต่อยอดระบบจองคิวรถบรรทุก (Truck Queue) ของท่าเรือฯ โดยภาพรวมการบริหารจัดการด้วยแพลตฟอร์มและการวางโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบังจะพัฒนาโดยใช้กรอบการพัฒนาแพลตฟอร์มข้อมูลเมืองของ ดีป้า ซึ่งมีแหล่งข้อมูลต้นทาง อาทิ ข้อมูลการเดินรถ ข้อมูลจากหัวรถลาก ข้อมูลตู้คอนเทนเนอร์ ข้อมูลตารางเรือ สายเรือ และอื่น ๆ จากท่าเรือเอกชน รวมถึงข้อมูลประกอบอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลการจราจร อากาศ CCTV และข้อมูลที่ได้จากระบบให้บริการที่ถูกพัฒนาขึ้นใหม่ โดยรวบรวมผ่านระบบ Smart Port Xchange Engine ซึ่งมีองค์ประกอบหลักตามกรอบการพัฒนาคือ Data Catalog, Data Exchange และ Data Governance จากนั้นนำมาสร้างเป็นบริการใหม่ ได้แก่ Smart Port Traffic, Smart Truck, Smart Port e-Payment, Smart Backhaul และ Smart Port Analytics 

อีกทั้งยังมีการให้บริการ Open Data สำหรับผู้ที่สนใจ ซึ่งทั้งหมดถือเป็นการปรับเปลี่ยนการทำงานภาครัฐให้มีประสิทธิภาพ ตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการ และสามารถเข้าถึงข้อมูลได้โดยสะดวก รวดเร็ว แม่นยำ และเหมาะสม


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save