กรุงเทพฯ: เอปสันเปิดตัวเครื่องพิมพ์หน้ากว้างอเนกประสงค์ SureColor T-Series 4 รุ่นใหม่ ชูไฮไลท์รุ่นขนาดหน้ากว้าง 24 นิ้ว แบบตั้งโต๊ะ ตอบโจทย์ครบจบในขั้นตอนเดียว (Seamless Workflow) ทั้งพิมพ์ สแกน Copy ขยาย และแชร์ไฟล์ รองรับความต้องการการพิมพ์ In-house ที่ส่งสัญญาณขยายตัวในยุค New Normal
ยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ที่ยืดเยื้อยาวนานสร้างผลกระทบอย่างหนักต่อทุกวงการธุรกิจ บังคับให้ทุกองค์กรต้องปรับตัวอย่างมาก เพื่อให้ธุรกิจอยู่รอด ในส่วนของเอปสันก็ได้ปรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงปัจจัยและความเสี่ยงต่างๆ ที่เพิ่มขึ้น ที่สำคัญคือสวัสดิภาพของพนักงานและครอบครัว รวมถึงเหล่าตัวแทนจำหน่าย จึงได้ปรับเปลี่ยนทั้งในรูปแบบการปฏิบัติงานจากที่พักอาศัยและเข้าออฟฟิศเท่าที่จำเป็น รวมถึงกลยุทธ์และช่องทางการจำหน่ายที่เน้นสื่อออนไลน์มากขึ้น ด้านการสร้างตลาดที่เน้นโมเดลการให้บริการและตลาดเกิดใหม่เพื่อช่วยลูกค้าประหยัดค่าใช้จ่าย ไปจนถึงการกำหนดเป้าหมายธุรกิจที่ต้องพิจารณาจากการแพร่ระบาดและการกระจายวัคซีนในแต่ละช่วงเวลา
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ในปีนี้ อุตสาหกรรมไอทีไม่ได้รับผลกระทบมากนัก โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ Consumer ที่ตอบโจทย์เทรนด์ใหม่ๆ ด้าน (Work from Home) และ Study from Home ในช่วงไตรมาสแรกของบริษัทฯ (เม.ย. – มิ.ย. 2564) ภาพรวมยอดขายของกลุ่มสินค้าเครื่องพิมพ์เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรมมีสัญญาณที่ดีในทุกสินค้า โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องพิมพ์หน้ากว้างสำหรับองค์กร (Corporate Printer) มีการเติบโตถึง 125% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันเมื่อปีที่ผ่านมา บริษัทฯ จึงคาดการณ์ว่าจะสามารถปิดยอดขายในไตรมาสแรกนี้เป็นบวก โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการปรับตัวการทำงานในภาคธุรกิจและมาตรการ WFH (Work From Home) ซึ่งทำให้มีความต้องการใช้งานเครื่องพิมพ์สูงขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และนำไปใช้งานได้หลากหลาย อีกทั้งเครื่องพิมพ์สำหรับองค์กรนี้ยังมีราคาที่ถูกลงจับต้องได้ง่ายขึ้น
ส่วน Digital Lab และเครื่องพิมพ์ที่ใช้ในองค์กร เช่น งานสถาปนิก เครื่องพิมพ์ที่ใช้ทำป้ายโฆษณา Signage ขนาดใหญ่ และเครื่องพิมพ์ฉลาก มีการเติบโตได้ดีพอสมควร เนื่องจากการเติบโตของบรรจุภัณฑ์ที่เป็นดิจิทัลมากขึ้น ด้านตลาดหุ่นยนต์แขนกล ภาพรวมยอดขายในไตรมาสแรกของปีพ.ศ.2564 (เม.ย. – มิ.ย. 2564) เติบโต 100% ด้วยหุ่นยนต์แขนกลช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และลดข้อผิดพลาดน้อยลง โดยลูกค้าส่วนใหญ่ของเอปสันเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่ รวมทั้งโรงงานประกอบชิ้นส่วนรถยนต์ เนื่องจากหุ่นยนต์แขนกลตอบโจทย์ด้านขนาดที่กะทัดรัด ประหยัดพลังงาน และมีความแม่นยำสูง
ยรรยง กล่าวว่า เดิมทีเครื่องพิมพ์เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม รุ่น SureColor T-Series เคยเป็นสินค้าสำหรับองค์กรที่ทำงานออกแบบ งานเขียนแบบ แผนที่ GIS และงาน CAD/CAM เช่น บริษัทสถาปนิก บริษัทรับเหมาก่อสร้าง ผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และหน่วยงานราชการ เป็นต้น ด้วยราคาที่ไม่สูง ขนาดที่กะทัดรัด น้ำหนักเบา ใช้งานง่ายและสามารถใช้งานได้หลากหลาย ทั้งยังพิมพ์งานขนาดใหญ่คุณภาพสูงได้อย่างรวดเร็ว จึงได้รับความสนใจในวงกว้างยิ่งขึ้นจากบริษัท ธุรกิจ สถาบันศึกษา ธุรกิจรีเทล โรงแรม ไปจนถึงโรงพยาบาลเพื่อใช้พิมพ์งาน In -house เช่น การพิมพ์โปสเตอร์ สื่อประชาสัมพันธ์ต่างๆ สติกเกอร์ งานออกแบบ ผังระบบ ผังโครงสร้างองค์กร เป็นต้น เอปสันจึงได้เปิดตัวสินค้าใหม่รุ่น SureColor T-Series อีก 4 รุ่น เพื่อรองรับความต้องการที่กำลังเพิ่มขึ้นในขณะนี้ และคาดว่าจะมีโอกาสเติบโตขึ้นอย่างมาก
ปลวัชร นาคะโยธิน ผู้จัดการฝ่ายขาย ผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์ระดับมืออาชีพ บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย ) จำกัด กล่าวว่า Epson SureColor T-Series รุ่นใหม่ที่เปิดตัวครั้งนี้ออกแบบมาให้ครบจบในขั้นตอนเดียว (Seamless Workflow) ทั้งพิมพ์ สแกน Copy ขยายใหญ่ และแชร์ไฟล์ ทำให้พิมพ์งานได้ง่าย อีกทั้งยังกันน้ำและฝุ่น ปรับและประยุกต์การใช้งานได้หลากหลาย ประกอบด้วยรุ่น SC-T3130M, SC-T5130M, SC-T3435 และ SC-T5435 โดยรุ่น SC-3130M มีหน้ากว้าง 24 นิ้ว และ SC-T5130M ขนาด 36 นิ้ว มีจุดเด่นที่มีสแกนเนอร์ติดตั้งในตัว ช่วยให้สามารถสแกนและทำสำเนาได้โดยไม่ต้องหาอุปกรณ์ต่อพ่วงเพิ่มเติมเหมือนรุ่นก่อนๆ
ขณะที่รุ่น SC-T3435 ที่มีหน้ากว้าง 24 นิ้ว และ SC-T5435 ขนาด 36 นิ้ว สามารถปรับให้รองรับหมึกพิมพ์ได้หลายขนาด ตั้งแต่ 110, 350 หรือ 700 มิลลิลิตร ช่วยให้พิมพ์งานปริมาณมากขึ้นได้อย่างต่อเนื่องไม่สะดุด และให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้ขนาดหมึกพิมพ์ได้เหมาะสมกับลักษณะงานของตัวเอง สามารถประหยัดหมึกได้ 15-50% ช่วยบริหารต้นทุนการพิมพ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
เครื่องพิมพ์ทั้ง 4 รุ่น ใช้เทคโนโลยีหัวพิมพ์ PrecisionCore ของเอปสันที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการพิมพ์และสามารถรับประกันคุณภาพของงานพิมพ์ด้วยชิพที่ควบคุมการหยดน้ำหมึกถึง 40 ล้านหยดต่อวินาทีได้อย่างแม่นยำทุกหยด จึงให้รายละเอียดที่สมบูรณ์แบบกับทุกงานพิมพ์ นอกจากนี้ ยังใช้คู่กับหมึกกันน้ำคุณภาพสูง UltraChrome XD2 ของเอปสัน ที่ให้ผลงานที่มีสีสันสดใส คมชัด และทนทานต่อสภาพแวดล้อม
“ไฮไลท์ของการเปิดตัวครั้งนี้ อยู่ที่รุ่น SC-T3130M ที่เป็นเครื่องพิมพ์ออลอินวันฉบับตั้งโต๊ะ ที่มีขนาดเล็กและเบาที่สุดในตลาดขณะนี้ ขนาดกว้างไม่ถึง 1 เมตร และหนักเพียง 34 กิโลกรัม ขนย้ายง่าย ดีไซน์สวยงาม สามารถพิมพ์โปสเตอร์หรือป้ายประชาสัมพันธ์ได้ใหญ่ถึงขนาด A1 ทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อไร้สาย ใช้เวลาพิมพ์เพียง 22 วินาที เหมาะสำหรับใช้งานที่บ้านหรือในออฟฟิศที่มีพื้นที่จำกัด หรือการทำงานที่ต้องการความคล่องตัวในช่วง New Normal ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่ทุกแผนกในบริษัทมีเครื่องพิมพ์อเนกประสงค์ของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องออกไปจ้างหน่วยงานภายนอกในการพิมพ์ หรือกรณีโรงพยาบาลสนาม ซึ่งต้องใช้สื่อประชาสัมพันธ์ติดตั้งรอบบริเวณทั้งป้าย Sign หรือ Banner ตอบโจทย์ยุค New Normal ครบจบในเครื่องเดียว มีซอฟต์แวร์บริหารจัดการ สามารถทำรายงานเป็นรายเดือน ทำให้ทราบต้นทุน นอกจากนี้ เอปสันยังได้เพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าด้วย Onsite Service นาน 3 ปี สำหรับหัวพิมพ์ ตัวเครื่อง และชุดสแกนเนอร์” ปลวัชร กล่าว
ยรรยง กล่าวถึงโอกาสในการทำตลาดของผลิตภัณฑ์ใหม่นี้มี 4 ปัจจัยด้วยกัน ปัจจัยแรก หลายองค์กรต้องปรับตัวให้ธุรกิจอยู่รอด ทำให้ความต้องการใช้งานของเครื่องพิมพ์อเนกประสงค์ SureColor T-Series เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องเพราะเป็นสินค้าที่ลงตัวกับรูปแบบการทำงานของทุกองค์กรในขณะนี้ และตอบโจทย์ทั้งในด้านความคุ้มค่าและความต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจ ปัจจัยที่2. ในช่วง COVID-19 ตลาด Signage เติบโตขึ้น มีทั้งป้าย Social Distancing เกิดการขยายตัวของการใช้งานในรูปแบบต่างๆ เป็นอย่างมาก ปัจจัยที่3.เอปสันเปิดตัวผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม ตอบสนองความต้องการตลาดอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ 18 รุ่น ตอบสนองการประหยัด และประสิทธิภาพการทำงานที่เร็วขึ้น และคุณภาพสูงขึ้น และปัจจัยที่4. ราคาที่ปรับลดลงอย่างมาก จากเดิม 7 หลัก เหลือประมาณ 5 หลัก ซึ่งตอบโจทย์ยุค New Normal ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้ง 4 รุ่นนี้เติบโตขึ้น