
กรุงเทพฯ : จากเหตุการณ์เพลิงไหม้ชุ มชนตรอกโพธิ์ ถ.เยาวราช เมื่อคืนวันที่ 6 ก.ค. ที่ผ่านมา ศ.ดร.อมร พิมานมาศ นายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่ งประเทศไทย เปิดเผยว่า ได้ส่งผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้ างอาคาร ได้แก่ ชูเลิศ จิตเจือจุน และวัฒนพงศ์ หิรัญมาลย์ กรรมการบริหารสมาคมฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงสร้ างอาคารร่วมกับสำนักงานควบคุ มอาคาร กทม. และเจ้าหน้าที่โยธาจากสำนั กงานเขตสัมพันธวงศ์ เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 67

ผลการสำรวจพื้นที่ และสภาพโครงสร้างอาคาร สามารถจัดแบ่งอาคารเป็น 2 กลุ่มตามระดับความเสี ยหายทางโครงสร้าง ดังนี้
1. อาคารตรงบริเวณชุมชนตรอกโพธิ์ ซึ่งเป็นจุดที่เกิดเหตุเพลิ งไหม้โดยตรง พบว่าอาคารส่วนใหญ่ในบริเวณดั งกล่าวประมาณร้อยละ 80 ได้รับความเสียหายทางโครงสร้ างและทางสถาปัตยกรรมอย่างรุนแรง เนื่องจากเป็นจุดที่เกิดเพลิ งไหม้โดยตรง และอาคารส่วนใหญ่ก่อสร้างขึ้ นจากไม้ ซึ่งเป็นวัสดุที่ติดไฟได้ง่าย
ดังนั้นอาคารในบริเวณดังกล่าว จึงไม่สามารถใช้การได้อีก อย่างไรก็ตามมีอาคารบางส่ วนประมาณ 20% ซึ่งได้รับความเสียหายน้อยกว่า และต้องเข้าไปตรวจสอบอาคารเหล่ านี้อีกครั้ง
2. อาคารตึกแถว 6 ชั้นที่อยู่ด้านนอก และติดกับชุมชนตรอกโพธิ์ ซึ่งทางสมาคมฯ ได้เข้าตรวจสอบอาคารที่เป็นภั ตตาคารและโรงแรม พบว่า อาคารทั้งสองเป็นโครงสร้ างคอนกรีตเสริมเหล็กซึ่งเป็นวั สดุที่ทนไฟได้ดีกว่าอาคารไม้หรื อเหล็ก จากการตรวจสอบชั้น 4-6 ของอาคารยังไม่พบความเสี ยหายของโครงสร้าง เนื่องจากคอนกรีตไม่เปลี่ยนสี คอนกรีตที่หุ้มเหล็กยังไม่ กะเทาะ และเหล็กเสริมที่อยู่ด้านในไม่ เสียรูป แสดงว่ายังไม่ได้รั บผลกระทบจากความร้อนมากนัก โดยรวมแล้ว สภาพทางโครงสร้างยังถือว่ามั่ นคงแข็งแรงอยู่

สำหรับความเสียหายที่พบได้แก่ ปูนฉาบที่กะเทาะหลุดออกมา และวัสดุตกแต่งทางสถาปัตยกรรมที่ เผาไหม้จากความร้อน ซึ่งไม่กระทบต่อโครงสร้างหลัก ส่วนชั้นล่างของอาคารไม่ พบความเสียหายทั้งในส่ วนงานโครงสร้างและงานสถาปั ตยกรรมในระดับที่สำคัญ

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอาคารตึกแถวเหล่านี้ เป็นอาคารเก่าและก่อสร้ างมานานกว่า 30-40 ปีแล้ว แม้ว่าเหตุเพลิงในครั้งนี้ เมื่อประเมินจากสายตาแล้ว ยังไม่กระทบต่อโครงสร้างอาคาร แต่ก็ควรทำการประเมินเชิงลึกอี กครั้งหลังจากที่ได้เคลียร์พื้ นที่แล้ว โดยใช้การทดสอบแบบไม่ทำลาย และการเจาะคอนกรีตเพื่อพิสูจน์ กำลังอัด หรือทำการทดสอบการรับน้ำหนั กบรรทุก (Load test) เพื่อให้เกิดความมั่ นใจในโครงสร้างต่อไป

อนึ่ง มีอาคารตึกแถวบางส่วน ที่อยู่ด้านซอยเยาวราช 7 อาจพบเห็นว่ามีการเอียงหรือทรุด แต่ การทรุดเอียงดังกล่าวน่าจะเกิ ดขึ้นมานานแล้ว เนื่องจากเป็นอาคารเก่า และเป็นปัญหาที่เกิดขึ้ นจากการรับน้ำหนักของชั้นดิ นและฐานราก ซึ่งไม่น่าเกี่ยวข้องกับเหตุ เพลิงไหม้ในครั้งนี้ แต่ก็ควรตรวจสอบโดยละเอียดให้ แน่ชัดอีกครั้ง