กรุงเทพฯ– 20 เมษายน 2564 :อีริคสันได้รับการประกาศให้เป็นผู้นำในตลาดโครงสร้างพื้นฐานเครือข่าย 5G ประจำปี 2020 โดยฟรอสต์แอนด์ซัลลิแวน
สำหรับความเป็นผู้นำระดับโลกนี้สืบเนื่องมาจากการมีสัญญาเชิงพาณิชย์กับผู้ให้บริการการสื่อสารชั้นนำทั่วโลกกว่า 130 สัญญารวมถึงเครือข่าย 5G ที่เปิดใช้งานแล้วถึง 83 เครือข่ายทั่วโลก
อีริคสันครองอันดับสูงสุดในตลาดโครงสร้างพื้นฐานเครือข่าย 5G จากการจัดอันดับของ Frost Radar™ ครั้งล่าสุด โดยอีริคสันใช้ประโยชน์จากความเป็นผู้นำในตลาดโครงสร้างพื้นฐานเครือข่าย 4G ในปัจจุบัน จากข้อมูลของฟรอสต์แอนด์ซัลลิแวนระบุว่าตลาดโครงสร้างพื้นฐานเครือข่าย 5G ประกอบด้วยเครือข่ายการเข้าถึงวิทยุ (RAN) เครือข่ายการขนส่งและเครือข่ายหลักซึ่งอาจรวมถึงเครือข่าย Edge อย่างน้อยหนึ่งเครือข่าย
ในรายงานฉบับล่าสุดของฟรอสต์แอนด์ซัลลิแวนได้เผยชื่อบริษัทชั้นนำ 20 บริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมทั้งหมดกว่า 100 บริษัทที่ร่วมการสำรวจ โดยบริษัทเหล่านี้อาจเป็นทั้งผู้นำในตลาดรวม หรือเป็นผู้นำในบางแขนง หรือเป็นผู้นำความคิดในแขนงใดแขนงหนึ่งเป็นการเฉพาะ Frost Radar™ ระบุตำแหน่งทางการตลาดของบริษัทเหล่านี้ในอุตสาหกรรมดังกล่าวโดยใช้กระบวนการคัดกรองจากคะแนนข้อมูลการเติบโตและคะแนนด้านนวัตกรรม
นาดีน อัลเลน ประธานกรรมการ บริษัท อีริคสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า อีริคสันได้ลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้นวัตกรรมและโซลูชั่นผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด ซึ่งการได้รับตำแหน่งผู้นำเทคโนโลยี 5G ใน Frost Radar™ ตอกย้ำความเป็นผู้นำของเรา ซึ่งรวมถึงความสามารถในการแข่งขันในตลาด การสร้างสรรค์นวัตกรรมและที่สำคัญกว่านั้นความมุ่งมั่นที่เรามีให้กับลูกค้าของเรา เรายังจะพัฒนาพอร์ตโฟลิโอ 4G/5G ต่อไปเพื่อตอบรับความต้องการอันหลากหลายของลูกค้าของเรา
Frost Radar ™ วัดอัตราการเติบโตและรายได้สุทธิ โดยนำมารวมเข้ากับปัจจัยอื่น ๆ เพื่อวัดประสิทธิภาพของบริษัทตามการเติบโต นอกจากนี้ยังประเมินนวัตกรรมของแต่ละบริษัท โดยการประเมินกลุ่มผลิตภัณฑ์ ตรวจสอบว่านวัตกรรมของบริษัทนั้นสามารถปรับขยายได้อย่างไรและดูประสิทธิภาพของกลยุทธ์การวิจัยและพัฒนารวมไปถึงปัจจัยอื่น ๆ ประกอบ
ทรอย มอร์เลย์ นักวิจัยอุตสาหกรรมอาวุโส Frost & Sullivan’s Information & Communication Technology group ให้ความเห็นเกี่ยวกับอีริคสันว่า ในฐานะที่เป็นผู้นำตลาดโครงสร้างพื้นฐาน 4G อีริคสันได้ก้าวเข้าไปสู่ตลาด 5G ด้วยฐานลูกค้าขนาดใหญ่ บริษัทสามารถรักษาลูกค้าปัจจุบันและเพิ่มลูกค้าใหม่ ๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม นอกจากนั้นยังรักษาลูกค้าที่ในเวลานี้ยังไม่ได้เปลี่ยนไปสู่ 5G แต่อีกไม่นานจะเปลี่ยนไป5G แน่นอน อีริคสันใช้เวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมาปรับกลยุทธ์ทั้งหมดเพื่อโฟกัสไปที่การสร้างกำไร โดยเมื่อเร็ว ๆ ได้ระบุว่าการปรับตัวครั้งนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี และได้เพิ่มผลกำไรและสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
“อีริคสันได้พิสูจน์ความสามารถในการปรับขนาดนวัตกรรมทั่วโลกด้วย 2G, 3G, 4G และ 5G ในปัจจุบัน ในส่วนของ 5G ตอนนี้บริษัทฯ มีเครือข่าย 5G ที่เปิดใช้งานแล้วถึง 72 เครือข่ายใน 37 ประเทศ* (ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดที่ Frost & Sullivan รับรู้จากการเปิดเผยต่อสาธารณะ) อีริคสันลงทุนจำนวนมากไปกับการวิจัยและพัฒนาซึ่งนี่เป็นสิ่งสำคัญในตลาดที่เทคโนโลยีมีการปรับตัวเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ” มอร์เลย์ กล่าว
กลุ่มผลิตภัณฑ์ 5G ชั้นนำ
อีริคสันได้พัฒนาผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยี 5G แบบต้นน้ำถึงปลายน้ำเพื่อรวมระบบวิทยุ Ericsson, 5G Core, Orchestration และ 5G Transport รวมถึงบริการระดับมืออาชีพ บริษัทฯ นำเสนอนวัตกรรมโซลูชั่นซอฟต์แวร์เช่น Ericsson Spectrum Sharing การรวมผู้ให้บริการ 5G และ Uplink Booster เพื่อปรับปรุงความครอบคลุมปริมาณงานของผู้ใช้และประสิทธิภาพของสเปกตรัมอย่างมีนัยสำคัญ
โซลูชันเหล่านี้สนับสนุนผู้ให้บริการปรับใช้และพัฒนา 5G เพื่อให้มั่น่ใจว่าผู้ใช้ปลายทางจะได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ระบบวิทยุสื่อสารของ Ericsson ที่มีจำหน่ายมาตั้งแต่ปี 2015 สามารถรองรับความสามารถ 5G New Radio (NR) ได้ผ่านการติดตั้งซอฟต์แวร์ระยะไกล
Ericsson Digital Services นำเสนอโซลูชั่น Dual-mode 5G Core แบบคลาวด์เนทีฟ สำหรับเครือข่ายที่ชาญฉลาดเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจที่ชาญฉลาดขึ้น ทำให้ผู้ให้บริการด้านการสื่อสารสามารถนำเสนอโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ มากมายสำหรับผู้ใช้มือถือและอุตสาหกรรม ระบบเครือข่ายอัตโนมัติของ Ericsson จะปรับปรุงประสิทธิภาพเครือข่าย สมรรถนะ ประสบการณ์ของลูกค้าและเปิดช่องทางรายได้ใหม่สำหรับกรณีการใช้งาน 5G ใหม่
นอกจากนี้ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาอีริคสันยังได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้นำใน 2021 Magic Quadrant สำหรับโครงสร้างพื้นฐานเครือข่าย 5G สำหรับผู้ให้บริการการสื่อสารโดยบริษัทวิจัยและที่ปรึกษาด้านไอทีอิสระอย่าง Gartner