ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป เปิดตัว “Climate Technology Platform” นวัตกรรมที่นำเทคโนโลยีมาช่วยบริหารจัดการสภาพภูมิอากาศและสภาพแวดล้อม พร้อมร่วมมือกับ อาลีบาบา คลาวด์ เพื่อพัฒนาโซลูชันที่ตอบโจทย์และเสริมศักยภาพธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน
เอกราช ปัญจวีณิน หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านดิจิทัล บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทรู ดิจิทัล ได้พัฒนา “Climate Technology Platform” นวัตกรรมที่นำเทคโนโลยีมาช่วยบริหารจัดการสภาพภูมิอากาศและสภาพแวดล้อม ซึ่งได้ถูกออกแบบด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยสามารถรองรับทุกมิติในการใช้งาน เช่น 1.เปลี่ยนระบบเดิม ๆ เป็นดิจิทัล (Turn Physical to Digital) ด้วยเทคโนโลยี IoT (Internet of Things) และอุปกรณ์เซ็นเซอร์ต่าง ๆ 2.เชื่อมต่อระบบพลังงานจากแหล่งต่าง ๆ แบบองค์รวม ครอบคลุมทั้งแหล่งพลังงานใหม่ที่เป็นพลังงานหมุนเวียน (Renewal Energy) อาทิ พลังงานแสงอาทิตย์ (Solar) และพลังงานจากน้ำ เข้ากับระบบพลังงานไฟฟ้า (Power Grid) 3.ใช้ AI ทำการวิเคราะห์เชิงลึกและให้ข้อมูลเชิงคาดการณ์ และสร้างระบบบริหารจัดการพลังงานอัตโนมัติ ช่วยให้องค์กรสามารถควบคุมและจัดการระบบพลังงานได้แบบเรียลไทม์และแม่นยำ รวมถึงแสดงค่าสถิติต่าง ๆ ผ่านแดชบอร์ดและรายงานที่ใช้งานง่าย เพื่อติดตามสถานการณ์การใช้พลังงานและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่น คำนวณปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ประเมินคาร์บอนฟุตพรินท์ที่เกิดจากการดำเนินธุรกิจและกิจกรรมต่าง ๆ ขององค์กร และอื่น ๆ เพื่อให้คำแนะนำเชิงคาดการณ์ที่เป็นไปตามอัลกอริธึม AI และ 4.การวางแผนด้านการใช้พลังงานและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ให้เป็นไปตามเป้าหมายองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยลดคาร์บอนในชั้นบรรยากาศ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตลอดจนส่งเสริมให้ธุรกิจสามารถสร้างคุณค่าและเติบโตได้อย่างยั่งยืน นำร่องด้วยเทคโนโลยีด้านพลังงาน ยกระดับการบริหารจัดการการใช้พลังงานขององค์กรธุรกิจและการใช้พลังงานหมุนเวียน ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินธุรกิจ
โดยร่วมมือกับ อาลีบาบา คลาวด์ ผนวกความเชี่ยวชาญและความสามารถที่โดดเด่นของทรู ดิจิทัล ในการควบรวมหลากหลายเทคโนโลยี ทำงานร่วมข้อมูลมหาศาล สร้างสรรค์นวัตกรรมโซลูชันสำหรับองค์กรธุรกิจ เข้ากับศักยภาพของ Energy Expert ของ อาลีบาบา คลาวด์ ซึ่งเป็นโซลูชันด้านความยั่งยืนที่ได้รับการยอมรับและนำไปใช้ในระดับโลก เพื่อเพิ่มขีดความสามารถแก่องค์กรธุรกิจในการจัดการด้านพลังงานและบริหารการปล่อยก๊าซเรือนกระจก พร้อมด้วยระบบอัตโนมัติ ที่ช่วยเสริมการทำงานของบุคลากรในการบริหารจัดการพลังงาน นำไปสู่การวางแผนการใช้พลังงานได้อย่างเหมาะสมและคุ้มค่า
ทั้งนี้ ทรู ดิจิทัล มีแผนต่อยอด Climate Technology Platform อาลีบาบาคลาวด์ ในการพัฒนาโซลูชันที่ช่วยตอบโจทย์ในอุตสาหกรรมต่างๆเพิ่มเติมนอกจากด้านพลังงานและความยั่งยืน เช่น ค้าปลีก เกษตรกรรม การผลิต เป็นต้น โดยระยะเวลาความร่วมมือในครั้งนี้มองไว้อย่างน้อย 3 ปี เพราะต้องการเจาะไปยังกลุ่มลูกค้า SME ให้มีความรู้และใช้โซลูชันนี้ได้ ซึ่งคาดว่าจะต้อใช้เวลาในการสร้างองค์ความรู้และความคุ้นเคยมากกว่ากลุ่มอื่นๆที่มีพื้นฐานและความรู้อยู่แล้ว คาดว่าอีก 3 ปี โซลูชันนี้จะช่วยภาคธุรกิจลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานราว 300 ล้านบาท
วิลเลี่ยม ซอง รองประธาน อาลีบาบา คลาวด์ อินเทลลิเจนซ์ และผู้จัดการทั่วไปธุรกิจระหว่างประเทศด้านโซลูชันอุตสาหกรรม กล่าวว่า อาลีบาบา คลาวด์ เปิดตัว Energy Expert เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2565 ซึ่งเป็นโซลูชันด้านการใช้พลังงานอย่างยั่งยืน ช่วยให้ลูกค้าทั่วโลกสามารถวัด วิเคราะห์ และบริหารการปล่อยก๊าซคาร์บอนที่เกิดจากกิจกรรมและผลิตภัณฑ์ในธุรกิจ โดยได้นำโซลูชันด้านความยั่งยืนที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาสู่ประเทศไทยผ่านความร่วมมือกับทรู ดิจิทัล กรุ๊ป เพื่อเสริมแกร่งให้ธุรกิจต่าง ๆ เช่น โรงพยาบาลกรุงเทพ ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เพื่อเสริมแกร่งให้ธุรกิจต่างๆ เช่น โรงพยาบาลกรุงเทพ ให้มีความสามารถใหม่ๆ ในการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการใช้พลังงาน สำหรับความร่วมมือระหว่างอาลีบาบากับทาง ทรู ดิจิทัล ในครั้งนี้จะช่วยให้โซลูชันของอาลีบาบาเข้าถึงภาคธุรกิจในประเทศไทยได้อย่างรวดเร็ว และร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ความยั่งยืนตามเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี พ.ศ.2593
ประสาท คูเสริมมิตร ผู้จัดการฝ่าย งานบริหารระบบอาคาร โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า โรงพยาบาลกรุงเทพมีโรงพยาบาลในเครือข่าย 51 โรงพยาบาลทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด โดยได้ริเริ่มการนำโซลูชันดังกล่าวมาใช้นำร่องติดตั้งในโรงพยาบาลกรุงเทพเมื่อประมาณปี พ.ศ.2565 และใช้ระบบจริงเมื่อปี พ.ศ.2566 พบว่า โซลูชันดังกล่าว ช่วยติดตามและบริหารจัดการระบบพลังงานของโรงพยาบาล เช่น ระบบทำความเย็น ควบคู่กับการใช้ Energy Expert ที่มีประสิทธิภาพด้านการวิเคราะห์ข้อมูลและให้การคาดการณ์เชิงลึกของ อาลีบาบา คลาวด์ ช่วยให้โรงพยาบาลมีความก้าวหน้าในด้านประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน ลดค่าใช้จ่ายได้ และช่วยให้ใช้พลังงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นการสะท้อนความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืน และเป็นการกำหนดมาตรฐานใหม่ให้กับวงการการดูแลสุขภาพในการดำเนินธุรกิจอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สำหรับการประเมินผลการใช้โซลูชันดังกล่าวนั้นโรงพยาบาลกรุงเทพตั้งเป้าไว้จะประเมินทุกปีและจะทยอยนำไปใช้ให้ครบเครือข่ายของโรงพยาบาลกรุงเทพภายใน 3 ปี